บรรยากาศการท่องเที่ยวริมโขงกลับมาคึกคัก ประชาชนแน่นรอชมเรือไฟความคิดสร้างสรรค์ - ไทยเสรีนิวส์
บรรยากาศการท่องเที่ยวริมโขงกลับมาคึกคัก ประชาชนแน่นรอชมเรือไฟความคิดสร้างสรรค์

บรรยากาศการท่องเที่ยวริมโขงกลับมาคึกคัก ประชาชนแน่นรอชมเรือไฟความคิดสร้างสรรค์

 

วันที่ 30 กันยายน 2563 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการท่องเที่ยวของประชาชนและนักท่องเที่ยว ยังคงเป็นไปด้วยความคึกคัก แม้งานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนมจะเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนแล้วก็ตาม และในวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของการไหลเรือไฟแข่งขันประเภทความคิดสร้างสรรค์ ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวมากกว่าทุกวันก่อนหน้านี้เท่าตัว เพราะต่างก็ต้องการชมความงดงามแห่งสายน้ำโขงที่ชาวนครพนมร่วมแรงร่วมใจกัน นำไม้ไผ่นับหมื่นลำมาสรรค์สร้างเป็นเรือไฟ ขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 60 – 80 เมตร ส่วนความสูงจะอยู่ระหว่าง 20-30 เมตร

พร้อมมีการประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟนับแสนดวงให้เกิดเป็นลวดลายต่าง ๆ ตามจินตนาการที่ต้องการสื่อให้เห็นถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนแต่ละชุมชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนมและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของจังหวัดที่บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมา ความเชื่อ ความศรัทธาและความเป็นหนึ่งเดียวของคนนครพนม เพื่อเป็นประทีปพุทธบูชาในช่วงวันออกพรรษาในปีนี้

ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีจุดคัดกรองผู้ที่จะมาร่วมงานกว่า 34 จุดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่บริเวณงานทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานความมั่นคงคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีหน่วยปฐมพยาบาลทั้งแบบเคลื่อนที่เร็วและแบบประจำจุดไว้คอยบริการกรณีฉุกเฉิน เมื่อเกิดการเจ็บป่วยกระทันหัน

โดยในเวลา 15.39 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าและประชาชนชาวจังหวัดนครพนมประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์มาจุดต่อให้กับนายอำเภอแต่ละอำเภอ เพื่อนำไปจุดตะเกียงไฟบนเรือไฟของตนเองที่ใช้เวลาก่อสร้างนานนับเดือน ก่อนที่จะปล่อยไหลให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชมความงดงาม

DCIM100MEDIADJI_0549.JPG

สำหรับการไหลในวันนี้จะมีด้วยกัน 2 ลำ แข่งขันในประเภทความคิดสร้างสรรค์ คือเรือไฟของอำเภอนาหว้าที่มีการก่อสร้างด้วยขนาดความยาว 60 เมตร มีจำนวนตะเกียงไฟ 9,000ดวง สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดเรือไฟ ชีวิตวิถีใหม่ ไทยชนะ เป็นรูปพญานาคราชอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงที่ปกปักรักษาชาวจังหวัดนครพนม และสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่จังหวัดนครพนมได้ขึ้นมาเล่นน้ำ รวมถึงการสื่อสารให้ทุกคนได้รู้ว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร มีการป้องกันอย่างไรโดยมีการนำเอาเทคนิคพิเศษมาใส่เข้าไปทำให้ส่วนปากพญานาคเคลื่อนไหว ส่วนมือสามารถกดเจลแอลกอฮอล์ได้ ขณะที่อีกสัญลักษณ์คือการตั้งการ์ดมวยต่อสู้ก็จะสามารถขยับมือได้เช่นเดียวกัน

ส่วนเรือไฟของอำเภอวังยางนั้นมีการก่อสร้างด้วยขนาดความยาว 60 เมตรเช่นเดียวกัน แต่มีตะเกียงไฟมากกว่าคือ 9,500 ดวง เรือไฟประกอบไปด้วย รวงข้าวที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ พระเจดีย์สามร่มโพธิ์ศรี พระใหญ่บ้านวังโน ประตูระบายน้ำบ้านนาขามอันเนื่องมาจากพระราชดำริส่วนหัวเรือจะปรากฏพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ที่ทรงทอดพระเนตรมายังพสกนิกรทุกหมู่เหล่าด้วยความห่วงใยจากฟากฟ้า

DCIM100MEDIADJI_0576.JPG

โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการไหลเรือไฟ จำนวน 3 ลำ ได้แก่ เรือไฟอำเภอบ้านแพง ขนาดความยาว 60 เมตร ที่มีการประดับตกแต่งดวงไฟ 15,000 ดวง อำเภอปลาปาก ขนาดความยาว 60 เมตร ประดับตกแต่งดวงไฟ 12,000 ดวง และอำเภอนาแก ขนาดความยาว 70 เมตร ประดับตกแต่งดวงไฟ 15,000 ดวง ซึ่งส่งเข้าแข่งขันในประเภทความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน

ขณะที่ในวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ซึ่งเป็นวันออกพรรษาจะมีการไหลเรือไฟทั้งสิ้น 7 ลำ ที่ลงแข่งขันในประเภทสวยงาม คือเรือไฟจากอำเภอศรีสงคราม ความยาว 80 เมตร ตะเกียงไฟ 20,000 ดวง อำเภอโพนสวรรค์ ความยาว 80 เมตร ตะเกียงไฟ 25,000 อำเภอนาทม ความยาว 60 เมตร ตะเกียงไฟ 20,000 อำเภอท่าอุเทน ความยาว 80 เมตร ตะเกียงไฟ 20,000 อำเภอเมืองนครพนมความยาว 80 เมตร ตะเกียงไฟ 25,000 อำเภอเรณูนครความยาว 79 เมตร ตะเกียงไฟ 13,000 และอำเภอธาตุพนมความยาว 63 เมตร ตะเกียงไฟ 10,000 ดวง

 

สุเทพ หันจรัส นครพนม




สำนักงานใหญ่ เลขที่ 76 หมู่ 20 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000