นายทุน เงิน และนักการเมืองท้องถิ่นที่เห็นแก่เงิน…กับ “ป่าเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได” เผยชาวบ้านต่อสู้มานาน 25 ปี และแกนนำคัดค้านเหมืองถูกยิงเสียชีวิตไปแล้วรวม 4 คน
นายทุน เงิน และนักการเมืองท้องถิ่นที่เห็นแก่เงิน…กับ “ป่าเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได” เผยชาวบ้านต่อสู้มานาน 25 ปี และแกนนำคัดค้านเหมืองถูกยิงเสียชีวิตไปแล้วรวม 4 คน
วันที่ 29 ก.พ. 2563 ที่ สภ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู นางสุนี อนุเวช อายุ 60 ปี ราษฎร หมู่ที่ 12 ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู พร้อมชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ถวัลย์ หอมพรมมา พงส.สภ.สุวรรณคูหา เนื่องจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ ได้จัดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ สมัยสามัญ สมัยแรก ประจำปี 2563 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู อาจจะเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีการบรรจุระเบียบวาระการประชุมสภาฯ ในระเบียบวาระที่ 4 ข้อที่ 2 เพื่อพิจารณาลงมติต่ออายุใบอนุญาตประทานบัตรทําเหมืองหินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) และใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าเก่ากลอยและป่านากลาง) เพื่อทําเหมืองแร่ ของผู้ประกอบการ
โดยไม่ได้มีการทำประชาคมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ 6 หมู่บ้านที่ ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง และละเมิดข้อตกลงร่วมกับชาวบ้านเมื่อ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 โดยทางชาวบ้านกล่าวว่า ทำไมไม่ประชุมที่ อบต. ทำไมต้องมาจัดประชุมที่จังหวัดซึ่งระยะทางไปกลับเกือบ 200 กิโลเมตร ครั้งนี้เราทนไม่ไหวแล้ว มันสุดจะทนจริงๆ เราจะไม่เกรงใจใครแล้ว ถ้ายังดึงดันต่อใบอนุญาตทำเหมือง ก็จะเอาผิดให้ถึงที่สุดต่อไป เราต้องการปกป้องภูเขาป่าไม้ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลาน พวกเราจะต่อสู้คัดค้านสู้จนกว่าเหมืองจะปิด 
ชาวบ้านยังเล่าอีกว่า ที่ผ่านมา ชุมชนร่วมกันรักษาป่าและคัดค้านการทำเหมืองแร่ที่ป่าต้นน้ำมายาวนานตลอด 25 ปี นับเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอุปสรรค มีความสูญเสียเพื่อนร่วมอุดมการณ์การต่อสู้มากถึง 4 คนที่ถูกยิงเสียชีวิตแต่ปัจจุบันยังไม่สามารถจับผู้ร้ายได้ และไม่เคยได้รับความเป็นธรรม เราทุกคนได้สูญเสียเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์ สูญเสียพี่น้องที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ สูญเสียคนในครอบครัว สูญเสียคู่ชีวิต นอกนี้ยังมีป่าเขาต้นน้ำลำธาร ซึ่งเป็นแหล่งทำมาหากิน เสี่ยงจากรถขนหินจากเหมือง ดังนั้นสิ่งที่สูญเสียไปนี้ต้องไม่สูญเปล่า วันนี้เราจะเปลี่ยนมันเป็นพลังเดินไปข้างหน้า เราได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง และชนะคดีในศาลปกครองชั้นต้นที่พิพากษาให้เพิกถอนการต่ออายุประทานบัตรการทำเหมืองหินปูน และเพิกถอนการต่ออายุใบอนุญาตการใช้ป่าสำหรับการทำเหมืองหินเพราะพื้นที่ทำเหมืองดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอยและป่านากลาง ปัจจุบันฝั่งเจ้าของเหมืองหินได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองจังหวัดอุดรธานี และยังดำเนินการระเบิดภูผาฮวกทันทีหลังยื่นอุทธรณ์ ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวและอยู่ระหว่างการรอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
หากกลไกรัฐอยู่ข้างประชาชน และไม่เอื้อประโยชน์ในทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดการทำเหมืองแร่ เราคงได้รับความยุติธรรมแล้ว “ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม” ดังนั้น กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได เพื่อคัดค้านการต่ออายุการอนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ สำหรับการทำเหมืองหินปูนในพื้นที่กว่า 175 ไร่ ที่กำลังจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2563 จึงต้องการจะบอกไปยังเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพราะที่ผ่านมาชุมชนรักษาป่าแต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้อนุญาตให้มีการใช้ป่าเพื่อการทำเหมืองหินปูน โดยปิดหู ปิดตา ไม่รับรู้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการทำเหมืองหินปูนและความขัดแย้งรุนแรงในพื้นที่ กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ขอประกาศว่าชุมชนเราไม่เอาเหมืองหิน พวกเราไม่อยากได้โรงโม่หิน และยืนยันว่าจะต่อสู้ให้ปิดเหมืองหินที่ทำร้ายพวกเรามานานกว่า 25 ปีให้จงได้
ภัทรวินทร์ ลีปาน
รายงาน
ป้ายกำกับ:#รายงานพิเศษ, #หนองบัวลำภู, #ไทยเสรีนิวส์
