“บิ๊กแนต”ตามบี้การกีฬา สมาคมร้องหาเบี้ยเลี้ยง ศึกเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์
“บิ๊กแนต”ตามบี้การกีฬา สมาคมร้องหาเบี้ยเลี้ยง ศึกเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์
“บิ๊กแนต” ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย เลือดขึ้นหน้า ถูกสมาคมกีฬากีฬาชุดเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ ร้องเรียนเรื่องเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาค้างจ่ายสมาคมเป็นเวลา 5 เดือน ย้ำยอมไม่ได้หากต้องการให้ผลงานนักกีฬาสู่เป้าหมาย การกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องเร่งจัดการเรื่องเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา และผู้ฝึกสอนออกมาอย่างเร็วที่สุด พร้อมกับ 2-3 ก.ค.นี้ เลขาสภาโอลิมปิกแห่งเอเชียจะขอเข้าพบรัฐมนตรีกีฬาเพื่อปรึกษาหารือความคืบหน้าด้วย
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาทีมชาติไทย ในการเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ซึ่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 21-30 พฤศจิกายน 2567 ที่กรุงเทพมหานคร และ จังหวัดชลบุรี โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้อนุมัติให้ทุกสมาคมเก็บตัวนักกีฬาตั้งแต่ เดือนตุลาคม ปี 2566 โดยได้มีการจ่ายเบี้ยเลี้ยงการฝึกซ้อมของนักกีฬา และ ผู้ฝึกสอนไปแล้วงวดแรกจนถึงเดือนธันวาคม 2566 แต่หลังจากนั้นยังไม่ได้จ่ายให้นักกีฬาแม้แต่เดือนเดียว
ล่าสุด บรรดานักกีฬา และผู้ฝึกสอนทุกสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขัน ได้ร้องเรียนมาทาง ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และ รองประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ในฐานะที่รับผิดชอบเกมนี้ของ โอซีเอ. สาเหตุมาจากนักกีฬายังไม่ได้รับเงินเก็บตัวฝึกซ้อมตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567 ส่งผลกระทบและเดือดร้อนเป็นลูกโซ่
นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ในฐานะรองประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย โดยเพิ่งจะทราบล่าสุดว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย เพิ่งจะเซ็นอนุมัติให้นักกีฬาและ ผู้ฝึกสอนเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น (เดือนมกราคม-เดือนเมษายน 2567) ส่วนที่เหลือในเดือน พฤษภาคม – เดือนตุลาคม อีก 6 เดือนต้องรอว่า การกีฬาแห่งประเทศไทยจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายกองเอก ชัยภักดิ์ ได้ย้ำเตือนด้วยว่า ประการแรก อยากให้ การกีฬาแห่งประเทศไทยได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของ สมาคมกีฬา นักกีฬาและผู้ฝึกสอน เนื่องจากต้องกิน ต้องใช้ เขาได้รับเบี้ยงเลี้ยงวันละ 900 บาท ตกคนละ 27,000 บาท ต่อหัว/ ต่อคน ส่วนผู้ฝึกสอนได้รับเงินเดือน 70,000-100,000 บาทต่อเดือน ไม่ควรออกให้ช้าเหมือนที่ผ่านมา โดยควรออกให้ตรงตามกำหนดแบบเดือนต่อเดือน นี่คือจุดด้อยของการเตรียมความพร้อมในส่วนของนักกีฬาและผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย
ประการที่สอง ที่ผ่านมาสมาคมกีฬา มีปัญหากับผู้ฝึกสอนตัวเอง เนื่องจากผู้ฝึกสอนได้รับเงินเดือนช้า เพิ่งจะออกให้ถึงเดือนมีนาคมเท่านั้น บางสมาคมฯ ผู้ฝึกสอนยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำให้ผู้ฝึกสอนหมดกำลังใจในการสอนนักกีฬาอย่างที่ควรจะเป็น ในเมื่อเป็นเช่นนี้อย่าหวังให้นักกีฬามีผลงานที่ดีกับการแข่งขันในรายการนี้
ประการที่สาม เลขาธิการสภาโอลิมปิกแห่งเอเชียจะบินมาเมืองไทยเอง เพื่อถามความชัดเจนเรื่องเงินมัดจำที่พัก โรงแรม ซึ่งยังไม่ได้รับเลย เหมือนกับว่า ประเทศไทย ไม่มีความพร้อมในการจัดการแข่งขัน ทุกอย่างต้องชัดเจน ต้องให้คำตอบเขา ตอนนี้เชื่อเสียงประเทศไทยหมดแล้ว เขาไม่เชื่อเรื่องการเงิน อยากให้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ชัดเจนว่าการเตรียมแข่งขันครั้งนี้ ยังเงินขาดเท่าไหร่ ? และจะนำมาจากไหน ? และควรให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับทราบถึงปัญหาด้วย เพราะผมรับทราบมาว่า ทาง โอซีเอ. ต้องการเรียนพบท่านรัฐมนตรีกีฬาด้วย ระหว่างวันที่ 2-3 กรกฏาคม เพื่อหารือถึงปัญหานี้
ขอยืนยันว่า “ผมอยู่ตรงกลางระหว่าง คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) กับ รัฐบาลไทย มีหน้าที่ต้องทำให้ปัญหาทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เงินเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา เบี้ยเลี้ยงผู้ฝึกสอน และ เงินมัดจำที่ เลขาธิการสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย จะมาทวงถาม ให้เคลียร์ และจบอย่างดีที่สุดเพื่อทำให้ปัญหาทุกอย่างจบลงด้วยดีเพื่อให้การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ดำเนินการแข่งขันไปอย่างราบรื่น”