“บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” นำทีมร่วมกตัญญู ฟื้นฟูมัสยิดที่ถูกน้ำท่วมหนักในรอบ 50 ปี ควักเงินเกือบล้านบาทเพื่อแลกรอยยิ้มของชาวใต้

ชาวมุสลิมตันหยงมัส ปลื้มใจ “บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” ไม่แบ่งแยกศาสนา ยกทัพนำทีมร่วมกตัญญูฟื้นฟูมัสยิดที่เคยน้ำท่วมหนักในรอบ50 ปี ด้านบิณฑ์เผยลุยฟื้นฟู วัด โรงเรียน มัสยิด ควักเงินเกือบล้านบาทเพื่อแลกรอยยิ้มของชาวใต้

มูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย คุณบิณฑ์ – คุณเอกพัน บรรลือฤทธิ์ คู่แฝดใจพระ นำทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด รวมคนกว่า 35 นาย เดินทางไปยังพื้นที่ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อทำกิจกรรมจิตอาสาฟื้นฟู ศาสนสถานที่สำคัญต่างๆ ทั้ง วัด โรงเรียน และ มัสยิด ในพื้นที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมหนักสุดในพื้นที่ เมื่อช่วงปลายปีต่อเนื่องต้นปีที่ผ่านมา

โดยคณะได้เดินทางลุยภารกิจตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 67 ที่ผ่าน ก่อนจะเริ่มลุยฟื้นฟูภารกิจ ด้วยการเริ่มทาสีที่วัดชัยรัตนาราม หรือวัดบ้านไทย ซึ่งใช้เวลารวม 5 วัน จากนั้น นำทีมไปทาสีอาคารเรียนของโรงเรียน บ้านกอแนะเหนือ ในตำบลตันหยงมัส ซึ่งมีอาคารเรียนทั้งหมด 3 หลัง และถือเป็นโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า5 เมตร นานนับสัปดาห์ อีกทั้งเป็นอาคารเรียนที่ไม่เคยทาสีปรับปรุงอาคารมาร่วม30 ปี สร้างความดีอกดีใจให้ทั้งพระคุณเจ้าวัดชัยรัตนาราม รวมถึงคณะครูและนักเรียนของโรงเรียนบ้านกอแนะเหนือ เป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้เอง 18 เม.ย.67 คณะของคุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เดินทางไปที่ นูรุลอิซาน ที่บ้านปูลาไซร์ หมู่ที่ 8 ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อนำชาวคณะร่วมกันลอกสีเก่าทาสีใหม่ให้กับมัสยิดแห่งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานจิตอาสาพระราชทานในพระองค์ 904 เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

ซึ่งมี นาย อับดุลเล๊าะ แวเสือแม โต๊ะอิหม่าม พร้อมคณะกรรมการสอนศาสนาและกรรรมการมัสยิดรวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ ให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมกันอย่างอบอุ่น ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งทหารและชุดคุ้มครองหมู่บ้านอย่างเข้มงวด

นาย อับดุลเล๊าะ แวเสือแม โต๊ะอิหม่าม เปิดเผยว่า สำหรับมัสยิดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญของคนในชุมชนกว่าร้อยหลังคาเรือน ซึ่งมีประชากรรวมกว่า700 ชีวิต ที่ผ่านมามัสยิดแห่งนี้จะไม่เคยถูกน้ำท่วมเลยสักครั้ง จนกระทั่งล่าสุดถูกน้ำท่วมสูง ซึ่งถือว่าน้ำท่วมในรอบกว่า 50 ปี สร้างความเสียหายให้กับมัสยิดและโรงเรียนสอนศาสนาเป็นอย่างมาก รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการสอนก็ได้รับความเสียหายทั้งหมด จนกระทั่งได้คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เข้ามาช่วยฟื้นฟู สนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงล่าสุดพาคณะเข้ามาทาสีที่มัสยิดแห่งนี้ อีกครั้ง ตนเองในฐานะผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนาในพื้นที่รวมถึงพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ต่างพากันดีใจและปราบปลื้มใจเป็นอย่างมาก ถือเป็นดาราคนแรกที่เข้ามาช่วยเหลือที่นี่ อีกทั้งยังรู้สึกดีใจที่ทางคณะบิณฑ์รวมถึงมูลนิธิร่วมกตัญญู ไม่แบ่งแยกศาสนา พร้อมใจกันเข้ามาช่วยฟื้นฟูสถานที่สำคัญอย่าสงมัสยิดแห่งนี้

ขณะที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมพื้นฟูสถานที่สำคัญทั้ง 3 แห่ง ที่ตนเองและชาวคณะของมูลนิธิร่วมกตัญญู เดนิทางมาร่วมกันทาสีฟื้นฟูครั้งนี้ ซึ่งห่วงเวลาทำกิจกรรมจิตอาสาครั้งนี้ ถือว่าเป็นช่วงวันหยุดต่อเนื่องกันหลายวันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา แต่ทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมต่างมีความยินดีและตั้งใจที่จะมาร่วมภารกิจนี้ให้สำเร็จทั้ง3 แห่ง ซึ่งทุกคนถึงแม้ว่าจะเหนื่อย แต่ก็ต่างพากันมีความสุขเมื่อเห็นรอยยิ้ม ทั้งพระสงฆ์ ทั้งครูและเด็กๆ รวมถึง พี่น้องชาวมุสลิมอย่างที่ชุมชนมัสยิดแห่งนี้ ซึ่งถือว่าแลกมากับวันช่วงวันหยุดที่เหนื่อยกับการทำแต่ได้มาด้วยรอยยิ้มและบุญกุศลที่ได้รับถือว่าคุ้มและภูมิใจ ส่วนงบประมาณสำหรับภารกิจครั้งนี้ ทั้งค่าสี ค่าอุปกรณ์ และค่าที่อยู่ที่กิน รวมแล้วเกือบ 1 ล้านบาท ที่ตนเองควักเงินจ่ายไป ในครั้งนี้

นอกจากนั้นในช่วงเก็บสิ่งของภายในโบสถ์ที่วัดออกเพื่อเคลียร์พื้นที่และทาสีใหม่ทั้งหมด จะมีช่วงที่ต้องเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปปูนปั้นเก่าที่ชำรุด จังหวะที่กำลังช่วยกันยก เศียรพระเกิดหักซึ่งเดิมที่หักอยู่แล้วแต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะหักจนหลุดใส่ศรีษะตนเองอย่างจังจนถึงกับมีแผลแตกที่ศีรษะและมีอาการมึนหัว ตนเองยังคิดว่าถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์จากหนักให้เป็นเบา หากวันดังกล่าว ซึ่งเป็นวันสงกรานต์ ตนเองไม่ได้มาทาสีวัดและออกไปเล่นสงกรานต์ที่อื่นอาจได้รับอันตรายมากกว่านี้ก็เป็นได้
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส