โจรใต้ป่วนรือเสาะ ดักยิงตำรวจตาย ก่อนหนีเอาปืน เอ็ม.16 ไปด้วย
โจรใต้ป่วนรือเสาะ ดักยิงตำรวจตาย ก่อนหนีเอาปืน เอ็ม.16 ไปด้วย
วันที่ 7 ก.พ.67 พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.อ.สิทธิชัย บำรุงเขต ผบ.ฉก.ทพ.46 พ.ต.ท.ธิติวุฒิ เพชรรักษ์ รอง ผกก.สส. สภ.รือเสาะ รักษาราชการ ผกก.สภ.รือเสาะ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย และ กก.ภ.จว.นราธิวาส ,เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.ต.บินหลี เศรษฐสุข ผบ.หมู่ ป. สภ.รือเสาะ เสียชีวิต และเหตุลอบวางระเบิดที่บริเวณปากซอยบือเละ ต.รือเสาะออก ทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดในช่วงเวลา 20.30 น.ของคืนวันที่ 6 ก.พ.67 ที่ผ่านมา
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบริเวณซอยข้างโรงเรียนรือเสาะวิทยา ซึ่งเป็นทางเข้าแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ ซึ่งเป็นจุดที่ จ.ส.ต.บินหลี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ซึ่งมีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าสกูปปี้ สีดำ ทะเบียน งจม 599 สงขลา ล้มตะแคงอยู่ด้านซ้ายมือของริมถนน ที่บริเวณล้อหลังมีระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ที่สลักถูกดึงออกแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงในการยิงทำลาย ซึ่งที่บริเวณรถ จยย.เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 และขนาด 7.62 ตกอยู่จำนวน 8 ปลอก และซอยที่อยู่ตรงกันข้าม รถ จยย.ล้มคว่ำ เจ้าหน้าที่พบคล้ายลักษณะร่อยรอยลากร่าง จ.ส.ต.บินหลี ไปยิงซ้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 อีกจำนวน 15 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินทางตรวจสอบจุดที่ 2 ซึ่งเป็นซอยบาเละ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยหลุมระเบิดที่บริเวณผิวถนนด้านซ้ายมือข้างเสาไฟฟ้าปากซอยทางเข้า จนผิวถนนกะเทาะจากอนุภาพของระเบิดเป็นวงกว้าง ซึ่งมีรัศมีประมาณ 50 ซ.ม. และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิงแบบพกพาซึ่งใช้ภายในรถยนต์ หนัก 4 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ โดยบ้านเรือนและร้านค้าวัสดุก่อสร้างชื่อ นิอัยดา ฝาผนังได้รับความเสียหาย แถมร้านขายเครื่องสำอางฝั่งตรงกันข้าม เลขที่ 59 ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย ที่บริเวณกระจกและบานประตู รวมทั้งทรัพย์สินภายในร้านยังได้รับความเสียหายบางส่วน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักหลักฐานในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.ต.บินหลี ได้ปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรยามรักษาการณ์ที่ป้อมยามของแฟลตที่พักตำรวจ สภ.รือเสาะ และเมื่อออกเวรได้ขี่รถ จยย.เพื่อเดินทางกลับที่พักซึ่งเป็นบ้านเช่าในซอยลาแม ขณะที่ จ.ส.ต.บินหลี ขี่รถ จยย. ออกมายามป้อมรักษาการณ์แฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ ได้ประมาณ 30 เมตร ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ได้ใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.ต.บินหลี เมื่อถูกกระสุนปืน รถ จยย.ได้เสียหลักล้มคว่ำ และ จ.ส.ต.บินหลี ได้รับบาดเจ็บ คนร้ายอีก 1 กลุ่มซึ่งดักซุ่มอยู่ซอยฝั่งตรงกันข้ามกับจุดเกิดเหตุ ได้ออกมาจากมุมมืดและได้เดินไปยังร่างของ จ.ส.ต.บินหลี ที่ได้รับบาดเจ็บและนอนร้องครวญครางอยู่ที่พื้นถนน แล้วลากเข้าไปยังซอยดังกล่าว
คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนรุมยิงใส่ร่าง จ.ส.ต.บินหลี จนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ โดยถูกกระสุนปืนของคนร้ายพรุน ที่บริเวณศรีษะ 1 นัด ลำคอ 1 นัด ลำตัว 4 นัด แขนขวา 2 นัด แขนซ้าย 6 นัด ขาขวา 6 นัด ขาซ้าย 3 นัด และที่บริเวณเท้าขวาอีก 1 นัด รวม 23 นัด ซึ่งก่อนหลบหนีคนร้ายได้ขโมยอาวุธปืน เอ็ม.16 ซึ่งเป็นอาวุธปืนประจำกายของ จ.ส.ต.บินหลี ไปด้วย 1 กระบอก ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส
ป้ายกำกับ:#ข่าวอาชญากรรม, #นราธิวาส, #โควิด-19, #ไทยเสรีนิวส์