อิทธิพลมืด ล้อมรถ 2 ผสข.ช่องดัง ค้ำคอ ลบคลิป ข่มขู่อาฆาตไม่ให้ทำข่าว ในบ่อลูกรัง อดีต สจ.ดังเพชรบุรี
อิทธิพลมืด ล้อมรถ ผสข. 2 ช่องดัง ค้ำคอ ลบคลิป ข่มขู่อาฆาตไม่ให้ทำข่าว ในบ่อลูกรัง อดีต สจ.ดังเพชรบุรี
วันที่ 27 ก.พ.66 หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชรธรรมสถานฯ แจ้งเกิดเหตุรถแม็คโครถูกดินโคลนถล่มทับจมน้ำ ที่บริเวณบ่อดินลูกรัง หมู่ 4 บ้านห้วยหิน ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปทำข่าวโดยมี นายปริพรรห์ รชตธรรมกุล ผู้สื่อข่าวทีวีช่อง 7 ประจำจังหวัดเพชรบุรี และนายมานิตย์ รักพานิชแสง ผู้สื่อข่าวทีวีช่อง 3 ประจำ จ.เพชรบุรี เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุก่อน ขณะที่ผู้สื่อข่าวจากสำนักอื่นๆกำลังเดินทางไปสมทบ ได้รับแจ้งจากนายมานิตย์ และนายปริพรรห์ ว่าได้ถูกกลุ่มชายและหญิงประมาณ 15 คน เข้ามาปิดล้อมรถกระบะของผู้สื่อข่าว พร้อมข่มขู่ไม่ให้ทำข่าว ยึดมือถือไปลบรูปภาพและคลิปในมือถือ และบังคับให้เดินทางออกนอกพื้นที่เกิดเหตุทันที
นายปริพรรห์ และนายมานิตย์ เปิดเผยว่า ขณะตนกำลังบันทึกภาพเหตุการณ์ กู้ภัยกำลังค้นหาผู้เสียชีวิตใต้น้ำ ได้ถูกชายไม่ทราบชื่อเดินอ้อมเข้ามาข้างหลัง ใช้ท่อนแขนล็อคคอ ลากดึงตัวออกมา จากนั้นได้มีชายใส่ชุดเครื่องแบบสีกากีสวมเสื้อคลุมสีดำทับ เดินเข้ามาถามว่าเป็นผู้สื่อข่าวจากที่ไหน ตนและนายมานิตย์ได้แนะนำตัวแสดงบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวให้ชายคนดังกล่าวดู
ชายคนดังกล่าวได้ถามกลับมาว่ารู้ไหมกูเป็นใคร แล้วเปิดเสื้อคลุมให้เห็นป้ายชื่อแสดงตัวที่หน้าอกชุดสีกากีระบุชื่อ นายประสาน (สงวนนามสกุล) เป็นพนักงานประจำขับรถน้ำเทศบาลเมืองชะอำ นายประสาน ได้ใช้มือค้ำคอตนให้เดินถอยหลังมาที่รถกระบะ จากนั้นนายประสานได้เดินมาดึงแมสปิดหน้านายมานิตย์ และกล่าวว่าขอดูหน้าหน่อย โดยที่นายมานิตย์ไม่ได้ขออนุญาตและไม่ทันให้นายมานิตย์ตั้งตัว
จากนั้นนายประสานได้กล่าวว่าไม่ให้บันทึกภาพ ถ้าบันทึกภาพจะตามไปจัดการถึงบ้าน ขณะเดียวกันมีชายอีก 1 คน เดินเข้ามาล็อคคอตน และกระชากโทรศัพท์ออกจากมือตน ส่งให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ใส่ชุดนอนลายการ์ตูนสีชมพู ทำการลบภาพทั้งหมดที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ นายมานิตย์เห็นดังนั้นจึงพยายามห้ามปรามให้ใจเย็น ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง แต่ปรากฏมีผู้ชายอีก 1 คน เดินมากระชากโทรศัพท์ออกจากมือนายมานิตย์ และยื่นส่งให้ผู้หญิงคนเดิมลบข้อมูลเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีผู้ชายอีก 1 คน มาดึงบัตรประชาชนและบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวของตนไปบันทึกภาพไว้ จากนั้นกลุ่มคนทั้งหมดประมาณ 15 คน ได้เดินล้อมต้อนนายมานิตย์และตนมาที่รถผู้สื่อข่าวบังคับให้ออกนอกพื้นที่ โดยนายประสานพูดข่มขู่ย้ำว่าหากมีภาพออกไปตามสื่อต่างๆ จะตามไปจัดการถึงบ้าน ทั้งนี้ขณะที่ตนกำลังขับรถออกนอกพื้นที่ ยังมีชาย 2 คนยืนถ่ายวีดีโอบันทึกป้ายทะเบียนรถตลอดเวลา
ต่อมา นายมานิตย์และนายประพรรห์ ได้เดินทางมาที่ สภ. ชะอำ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สายยนต์ ขึ้นนกคุ้ม สารวัตรเวร พร้อมประสานแจ้งเรื่องดังกล่าวให้กับ พ.ต.ท.ชูเกียรติ เพ็ชร์แท้ รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ และ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำทราบ พ.ต.อ.สมเกียรติ ได้รายงานให้ พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ทราบ โดย พล.ต.ต.ปิติ ได้สั่งการเน้นย้ำให้ตรวจสอบใบอนุญาตการขุดดินของบ่อดินดังกล่าว
ส่วนประเด็นสาเหตุที่ข่มขู่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุการณ์ตามหน้าที่ และส่วนอื่นๆ พ.ต.อ.สมเกียรติ จะเชิญตัวนายสมชาย มีนาม อดีต สจ.ชะอำ เพชรบุรี ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา นายก อบจ.เพชรบุรี เจ้าของบ่อดินลูกรังที่เกิดเหตุ และเป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ และนายประสาน ผู้ถูกกล่าวหามาสอบถาม
ด้านนายประสาน ปฏิเสธไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุหรือสั่งการให้เกิดเหตุ โดยอ้างว่าเป็นคนกลางขณะเข้าไปห้ามไม่ให้เกิดเหตุและไม่เคยบงการควบคุมหรือคำข่มขู่นายปริพรรห์แต่อย่างใด และไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ก่อเหตุ อ้างว่าอาจเป็นคนของนายสมชาย ด้านนายสมชาย กล่าวว่าขณะเกิดเหตุตนอยู่ในที่เกิดเหตุจริง แต่ไม่ทราบเรื่องการขัดแย้ง เนื่องจากขณะนั้นตนสนใจเพียงการค้นหาศพผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกน้อง เบื้องต้นนายมานิตย์และนายประดิพรรห์ ได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ฐานประทุษร้ายต่อร่างกายและจิตใจ กักขังหน่วงเหนี่ยว พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำลายทรัพย์สินข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ และข่มขู่อาฆาต พร้อมยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ทีมข่าวจังหวัดเพชรบุรี
ป้ายกำกับ:#ข่าวทั่วไทย, #เพชรบุรี, #โควิด-19, #ไทยเสรีนิวส์