อัญเชิญ “พระนารายณ์สี่กรทรงโค” กลับไปประดิษฐานยังวัดศรีคีรีสุวรรณาราม หลังสูญหายมากว่า 60 ปี - ไทยเสรีนิวส์
อัญเชิญ “พระนารายณ์สี่กรทรงโค” กลับไปประดิษฐานยังวัดศรีคีรีสุวรรณาราม หลังสูญหายมากว่า 60 ปี

อัญเชิญ “พระนารายณ์สี่กรทรงโค” กลับไปประดิษฐานยังวัดศรีคีรีสุวรรณาราม หลังสูญหายมากว่า 60 ปี

ที่หน้าถ้ำเศรษฐี วัดหนองทอง หมู่11 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย พระครูปลัดธนะโรจน์ ปัญญาวชิโร (พระอาจารย์หมู) ได้จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระนารายณ์สี่กรทรงโค จากวัดหนองทอง ไปประดิษฐานที่วัดศรีคีรีสุวรรณาราม อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย โดยมีนายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานในพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระนารายณ์สี่กรทรงโค พร้อมด้วย นายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอคีรีมาศ นายอนัน ปิ่นโตนด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีคีรีมาศ นายวีรวิทย์ ฉันทวรางค์ รองผู้จัดการ อพท.4 พร้อมด้วยส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ร่วมขบวนพิธีรับ อัญเชิญกลับ และสมโภช รูปสลักพระนารายณ์สี่กรทรงโค ณ วัดหนองทอง ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย กลับวัดศรีคีรีสุวรรณาราม อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย


สำหรับพระนารายณ์สี่กรทรงโค และประวัติรอยพระพุทธบาท ที่ประดิษฐานเดิม ก่อนที่จะนำรอยพระพุทธบาทและพระนารายณ์มาประดิษฐานไว้ ณ วัดศรีคีรีสุวรรณาราม อย่างในปัจจุบัน แต่เดิมนั้น รอยพระพุทธบาท ได้ประดิษฐานอยู่ที่เขาพระบาทที่มีเชิงเขาติดกับเขาหลวง ซึ่งมีเพิงหินใหญ่พอสมควร เพื่อเป็นที่สักการบูชาของคนในสมัยนั้นสืบทอดต่อกันมา หลักฐานในการบูชารอยพระพุทธบาทพระนารายณ์ ในวันมามะบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) ของทุกปีเมื่อประมาณ 100 กว่าปี ที่ผ่านมาเครื่องบูชารอยพระพุทธบาท อาทิเช่น ดอกไม้ ธูป เทียน ทางวัดศรีดีรีสุวรรณารามได้เตรียมการไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธานั้นมาบูชา การจัดเตรียมสถานที่ คณะศรัทธาชาวตำบลศรีคีรีมาศ


จากการนำของ พระภิกษุสามเณร มัคทายกทายิกา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน ก่อนถึงวันงานประมาณ 4-5 วัน จะไปช่วยทำความสะอาด เช่น ปัดกวาด ถากถางป่า ขุดบ่อน้ำ ฯลฯประชาชนที่เดินทางมาบูชา ชาวตำบลและอำเภอใกล้เดียง เช่น อำเภอเมือง ตำบลเมืองเก่า บ้านนา บ้านขวาง ตำบลโตนด บ้านน้ำพุ สามพวง ทุ่งหลวง หนองจิก มาเชิงศรีคีรีมาศ อำเภอพรานกระต่าย และอื่นๆ

โดยการเดินทางเท้าและทางเกวียน โดยมาพักแรมอาศัยตามบ้านญาติพี่น้อง หรือในวัดศรีคีรีสุวรรณาราม มหรสพและการเล่นในการสมโภช กลางวันจัดขบวนแห่จากวัดศรีคีรีสุวรรณาราม ไปทำการสักการบูชารอยพระพุทธบาทบางปีมีการละเล่นเพลงฉ่อยและการละเล่นเพลงพื้นเมือง คือ เพลงทิงนอยอาหารที่นำไปด้วย คือ อาหารคาวหวาน ขนม ที่ขาดไม่ได้ คือขนมไส้หวาน ขนมเทียน ไส้เค็ม(ขนมนมสาว) นิมนต์พระจากวัดศรีคีรีสุวรรณารามและวัดใกล้เคียง ไปฉันภัตตาหาร กลางคืนกับมาฉลองที่วัดศรีคีรีสุวรรณาราม บางปีมีลิเก รำวงพื้นบ้าน ระยะเวลาจัดงาน 3 วัน 3 คืน

สาเหตุที่ต้องย้ายมาไว้ที่วัดศรีคีรีสุวรรณาราม เนื่องด้วยเมื่อประมาณ พ.ศ.2495 ปรากฏว่ามีพวกนักขุดของเก่า หรือ พวกขุดกรุ มาขุดทำลายแท่นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทและพระนารายณ์จนชำรุดเสียหายพังทลายใช้การไม่ได้ โดยคิดว่าใต้ฐานมีสมบัติหรือของเก่า ดังนั้นประชาชนจึงช่วยกันยกรอยพระพุทธบาทและพระนารายณ์นำมาประดิษฐานด้านล่างของเชิงเขา

ต่อมาภายหลังประชาชนได้ปรึกษากัน เกรงว่าจะมีคนมาทำลาย หรือขโมยนำไปไว้ที่อื่น จึงได้นำเกวียน หรือชาวบ้านในสมัยนั้นเรียกว่า ล้อกะแทะ ไปบรรทุกใส่มาเก็บไว้ที่ วัดศรีคีรีสุวรรณาราม จากการนำของ พระครูพิลาศธรรมคุณ (โถม กลฺญาโณ) ในขณะนั้นต่อมาพระนารายณ์สี่กรทรงโค ก็ได้หายออกจากวัดศรีคีรีสุวรรณาราม ซึ่งต่อมาทางพระครูปลัดธนะโรจน์ ปัญญาวชิโร (พระอาจารย์หมู) ได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นที่ วัดหนองทอง และได้มีโยมนำวัตถุโบราณชิ้นนี้มามอบให้กับทางวัดหนองทอง

ทางวัดจึงได้นำวัตถุโบราณชิ้นนี้มาเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ญาติโยมได้เข้ามาชม และมีโยมที่เข้ามาชมจำได้ว่าวัตถุโบราณชิ้นนี้เป็นของวัดศรีคีรีสุวรรณาราม จึงทำให้วันนี้ได้มีพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระนารายณ์สี่กรทรงโค จากวัดหนองทอง ไปประดิษฐ์ฐานที่วัดศรีคีรีสุวรรณาราม อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย โดยนำขึ้นรถหกล้อ หมายเลข 83 – 7151 ชัยภูมิ และมีการจุดประทัด 100,000 นัด เพื่อฉลอง โดยเลขหางประทัด คือ หมายเลข 631 75

พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย




สำนักงานใหญ่ เลขที่ 76 หมู่ 20 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000