“ม.ล.สราลี กิติยากร” ขนลุกพบความศักดิ์สิทธิ์ “หลวงปู่สรวง” เทวดาเดินดิน ด้วยตนเอง พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นที่เคารพศรัทธาของชน 2 ชาติ - ไทยเสรีนิวส์
“ม.ล.สราลี กิติยากร” ขนลุกพบความศักดิ์สิทธิ์ “หลวงปู่สรวง” เทวดาเดินดิน ด้วยตนเอง พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นที่เคารพศรัทธาของชน 2 ชาติ

หม่อมหลวงสราลี กิติยากร เผยขนลุกซู่พบความศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาด้วยตนเอง พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบชื่อดังชายแดนไทย – กัมพูชา ฉายาเทวดาเดินดิน เป็นที่เคารพศรัทธาของชน 2 ชาติ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ศูนย์เรียนหัตถวิถีมณีวิภา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หม่อมหลวงสราลี กิติยากร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระหว่างที่มาเยี่ยมชมผ้าไหม ผ้าพื้นเมืองและสินค้าโอท็อปต่างๆ ของศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ เกี่ยวกับการที่ได้ไปกราบไหว้ขอพรหลวงปู่สรวง ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ แล้วว่า หลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อตอนไปถึงรู้สึกว่าหลวงปู่สรวงท่านจะทักเลย เข้าไปปุ๊บไฟดับปุ๊บแล้วไฟก็เปิดเลย ทำให้ทุกคนรู้สึกที่ไปในวันนั้นพากันรู้สึกประหลาดใจมาก และทำให้เราขนลุกซู่เลย ส่วนที่ตรงนี้ช่วงก่อนที่เราจะเข้าไปมาที่ไฟดับก็คงไม่ใช่ศักดิ์สิทธิ์แล้วตรงจุดนี้คงเป็นการบังเอิญมากกว่า

เราเชื่อว่าหลวงปู่สรวงน่าจะศักดิ์สิทธิ์มาก พอเข้าไปปุ๊บก็รู้สึกว่าเหมือนกับว่าท่านได้ทัก เราไปกราบดับปุ๊บแล้วก็เปิดปุ๊บเลยเดี๋ยวนั้นเลย เหมือนกับเรามีความรู้สึกว่า ทันทีที่เรารับความรู้สึกได้คือเราขนลุกซู่เลย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ ชาวบ้านที่ศรีสะเกษศรัทธาเลื่อมใสมากๆ ท่านจะเก่งในหลายหลายด้านจนได้ฉายาว่าเทวดาเดินดินอยู่ที่วัดไพรพัฒนา

ซึ่งสังขารของท่านก็อยู่ที่วัดไพรพัฒนาและมีการแก้บนเยอะมาก ท่านจะชอบไก่ชอบว่าว คนที่มามาแก้บนกันเยอะๆเห็นบอกว่าพอขออะไรจากหลวงปู่สรวงแล้วก็มักจะได้ตามที่ขอทุกอย่าง ขอไปแล้วก็มีรางวัลที่ 1 ถูกบ่อยมาก เท่าที่ทราบมาก็คือ ถ้าขออะไรก็มักจะได้แต่ว่าการขอก็ต้องจะตั้งจิตดีๆ คำว่า ตั้งจิตดี ๆ หมายถึงว่า ต้องตั้งจิตให้นิ่งเวลาขอพรจากหลวงปู่สรวง มาเที่ยวศรีสะเกษ มีความหลากหลายมาก ตอนนี้ก็หน้าผลไม้ก็ขอเชิญมาเที่ยวศรีสะเกษกันเยอะๆ

พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ศิษย์เอกผู้รับมรดกธรรมของหลวงปู่สรวง และเป็นผู้มีความกตัญญูเป็นเลิศ กล่าวว่า หลวงปู่สรวงท่านเป็นชาวกัมพูชาได้เดินธุดงค์เข้ามาในเขตประเทศไทย แถบชายแดนไทย – กัมพูชาตามเทือกเขาพนมดงรักหรือพนมดองร็ก ทางด้าน อ.ขุนหาญ และ อ.ขุขันธ์ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชอบพักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้าน และจะธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ชาวบ้านที่มากราบไหว้ท่านจะมองท่านว่าเป็นพระผู้มีคุณวิเศษแตกต่างจากพระรูปอื่น ๆ

โดยชาวบ้านจะเรียกขานท่านว่า “ลูกเอ็อวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” ซึ่งเป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบส เป็นพระผู้รักษาศีลอันบริสุทธิ์อยู่ตามถ้ำป่าเขาลำเนาไพร หลวงปู่สรวงท่านเป็นพระที่สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูงสุด ให้ความเมตตากับผู้ที่เข้าไปกราบไหว้ทุกคน ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เสมอมา จึงมีผู้มากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำ และกลับมาหาหลวงปู่อยู่เสมอ เรื่องราวของหลวงปู่สรวงมีเรื่องราวและอภินิหารต่างเล่าขานกันมากมายจากปากต่อปาก ทำให้ชื่อเสียงบุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวงเป็นที่กล่าวขานมาจนทุกวันนี้

หลวงปู่สรวงท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2543 จนถึงขณะนี้หลวงปู่ท่านได้ละสังขารเป็นเวลานานกว่า 21 ปีแล้ว แต่ว่า สรีระสังขารของหลวงปู่สรวงไม่ได้เน่าเปื่อย อาตมาภาพได้เก็บรักษาสรีระสังขารของหลวงปู่ไว้ในโลงแก้ว ตั้งอยู่ภายในมณฑปที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งจะมีบรรดาศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนชนพากันมากราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่สรวงกันอย่างต่อเนื่อง และมักจะได้รับโชคตามที่ขอพรเอาไว้เป็นประจำอยู่เสมอ

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ




สำนักงานใหญ่ เลขที่ 76 หมู่ 20 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000