วิ่งธงธงชาติไทย ทะลุ 3,000 กม. ในวันที่ 40 ขบวนรถแห่ธงไตรรงค์ ส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกโอลิมปิกทั่วเมืองแพร่ (มีคลิป) - ไทยเสรีนิวส์
วิ่งธงธงชาติไทย ทะลุ 3,000 กม. ในวันที่ 40 ขบวนรถแห่ธงไตรรงค์ ส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกโอลิมปิกทั่วเมืองแพร่ (มีคลิป)

วิ่งธงธงชาติไทย ทะลุ 3,000 กม. ในวันที่ 40 ขบวนรถแห่ธงไตรรงค์ ส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกโอลิมปิกทั่วเมืองแพร่

 

วิ่งธงชาติไทยก้าวผ่าน กม.ที่ 3,000 กม.แล้วที่จังหวัดแพร่ โดยขบวนรถแห่วิ่งธงชาติร่วมส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด รวมผ่าน 40 วัน วิ่งแล้ว 3,026 กม. “วิจารณ์ พลฤทธิ์” ฮีโร่โอลิมปิกปี 2000 ให้กำลังใจ ขอรุ่นน้องนักกีฬาไทยพยายามให้เต็มที่ มั่นใจทีมกำปั้นสาวมีเหรียญ ด้าน “ดาว-มิ้น” 2 นักกีฬาชุดสู้ศึกโตเกียวเกมส์ ภูมิใจแฟนกีฬาส่งกำลังใจร่วมเชียร์ล้นหลาม ลั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประเทศและแฟนๆ กีฬา

ความเคลื่อนไหวกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด ระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว จัดขึ้นเพื่อส่งกำลังใจจากพี่น้องคนไทยสู่นักกีฬาทีมชาติไทย ล่าสุดเมื่อ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการวิ่งธงชาติไทยเป็นวันที่ 40 ของกิจกรรม ในพื้นที่จ.แพร่ ระยะทาง 60.2 กม.

สำหรับการวิ่งธงชาติไทยในวันนี้ เริ่มต้นจากหน่วยบริการประชาชนบ่อเหล็กสอง สี่แยกแม่แขม จ.แพร่ มายังสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ โดยฝ่ายจัดกิจกรรมได้ปรับรูปแบบมาใช้ขบวนรถแห่แทนการให้พี่น้องนักวิ่งที่สมัครร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ก็เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดแพร่

ทั้งนี้ในระหว่างธงชาติไทยผืนประวัติศาสตร์ถูกแห่ไปตามเส้นทาง ฝ่ายจัดกิจกรรมยังได้รับเกียรติจาก นักกีฬาทีมชาติไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ประกอบด้วย “วิจารณ์ พลฤทธิ์” นักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี 2000 รวมถึง 2 นักกีฬาชุดโตเกียวเกมส์ “อารีย์ณัฏฐา ชวตานนท์” นักกีฬาขี่ม้า และ “ศิริพร แก้วดวงงาม” นักกีฬาวินด์เซิร์ฟ ร่วมโฟนอินเข้ามาเล่าประสบการณ์และอัพเดทความพร้อมให้แฟนๆ กีฬาได้รับฟังกันสดๆ

พันตำรวจโท วิจารณ์ พลฤทธิ์ ฮีโร่นักชกเหรียญทองโอลิมปิก เผยว่า สำหรับตนการได้เข้าร่วมโอลิมปิกและคว้าเหรียญทองกลับมาได้ ถือเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตแล้ว ยิ่งการได้เห็นธงชาติไทยและได้ร้องเพลงชาติไทยในการแข่งขันโอลิมปิกยังเป็นเรื่องที่น่าประทับใจถึงวันนี้ ซึ่งจากวันนั้นผ่านมาถึงวันนี้เกือบ 21 ปี ตนก็ยังจำทุกความรู้สึกในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี

“ตอนนี้ผมรับราชการตำรวจ และรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชทีมมวยสากลสมัครเล่นหญิงทีมชาติไทย สำหรับตัวผมเอง ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทยทุกคน ขอให้ทำให้เต็มที่ เชื่อว่าความพยายามออยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ส่วนทีมกำปั้นหญิงของเราถึงเวลานี้ถือว่าฟิตมากๆ เพราะเตรียมทีมมาแบบไม่ได้หยุดพักเลย ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ก็ยังคิดว่าน้องๆทีมมวยหญิงของเรามีโอกาสได้เหรียญรางวัลกลับมา”

ส่วน “มิ้น” อารีย์ณัฏฐา ชวตานนท์ นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย เผยว่า ส่วนตัวอยากขอบคุณทุกแรงเชียร์และกำลังใจจากแฟนๆ กีฬาชาวไทยที่ออกมาร่วมส่งพลังใจนี้ผ่านกิจกรรมวิ่งธงชาติไทย สำหรับตนและเพื่อนๆ ในทีมอีเวนต์ติ้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ผ่านเข้ามาแข่งขันในโอลิมปิก ดังนั้นเป้าหมายก็คือ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และก็หวังว่าอย่างน้อยจะทำผลงานให้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับชาติในทวีปเอเชียด้วยกัน

ด้าน “ดาว” ศิริพร แก้วดวงงาม นักกีฬาวินด์เซิร์ฟ เผยว่า เวลานี้ตนยังคงฟิตซ้อมปกติ วันจันทร์ถึงวันเสาร์ โปรแกรมช่วงเช้าเข้าเวท ส่วนบ่ายลงทะเล วันละ 2-3 ชม. ซ้อมอยู่ที่หาดจอมเทียน พัทยา ก็หวังว่าเมื่อถึงวันแข่งจะพร้อมที่สุดทั้งร่างกายและจิตใจ สำหรับกิจกรรมวิ่งธงชาติไทยที่เกิดขึ้น ตนติดตามมาตั้งแต่เริ่ม รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เห็นประชาชนชาวไทยออกมาร่วมเชียร์และให้กำลังใจ ซึ่งในการแข่งรอบสุดท้าย ตนสัญญาว่าจะทำหน้าให้ดีที่สุด

ขณะที่ “หน้าต่าง” ธีรดา เอี่ยมประเสริฐ พิธีกรและผู้บรรยายการไล์ฟสดตลอดเส้นทาง ออกมาเปิดใจว่า ตลอด 40 วัน 3,000 กม. ธงชาติถูกวิ่งผ่านเส้นทางต่างๆ และสะสมกำลังใจของพี่น้องชาวไทยในแต่ละพื้นที่ ต้องบอกว่ามีเรื่องราวและภาพประทับใจเกิดขึ้นมากมาย แม้จะมีในบางช่วงบางจังหวัดที่ไม่สามารถจัดกิจกรรมขึ้นได้ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตนก็เชื่อว่ากิจกรรมครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงกำลังใจที่ช่วยผลักดันนักกีฬาไทยให้ไปคว้าชัยในโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์

ทั้งนี้ในช่วงสายของกิจกรรมเป็นเส้นทางการวิ่งขึ้นเขาในเขตจังหวัดแพร่ ธงชาติไทยยังถูกวิ่งผ่าน กม.ที่ 3,000 จากทั้งหมด 4,606 กม.ของกิจกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนท้ายที่สุดขบวนธงชาติไทยจะเคลื่อนมาถึงสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ และจบภารกิจของวันที่ 60.2 กม. รวมสะสมระยะทางวิ่งทั้งหมดไปแล้ว 3,026 กม.

สำหรับกิจกรรมวิ่งธงชาติไทยในวันที่ 41 วันศุกร์ ที่ 7 พ.ค.64 จะออกสตาร์ทจากสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ไปยัง สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ ระยะทางรวม 78.4 กม. ผู้ที่สนใจสามารถรับชม พร้อมทั้งร่วมส่งกำลังใจให้กับทีมนักวิ่งและนักกีฬาไทยได้ที่เฟซบุ๊ค Road to Tokyo 2020

ผู้ที่พลาดกิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย ยังสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ผ่านการวิ่ง “FLAG of Nation Virtual Run” วิ่งเสมือนจริง จากสถานที่ไหน เวลาใดก็ได้ อีกหนึ่งกิจกรรมการส่งต่อกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยในโอลิมปิก ซึ่งจัดคู่ขนานกับการวิ่งผลัดธงชาติไทย โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมส่งกำลังใจครั้งประวัติศาสตร์ได้ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 8 ส.ค.64 ที่ https://bit.ly/webcheckraceOlympic2020

ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมจะได้รับเสื้อพร้อมเหรียญที่ระลึกเป็นของรางวัล ขณะเดียวกันในทุกๆการวิ่ง 1 กม.จะสมทบทุน 1 บาท สนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทยในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และจะวิ่งไปกว่าจะสะสมระยะทางครบ 1 ล้าน กม.

 




สำนักงานใหญ่ เลขที่ 76 หมู่ 20 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000