ผู้ว่าฯ อยุธยา ตรวจเยี่ยมการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก (Active case Finding) เร่งตรวจหาผู้สัมผัสในตลาดวังน้อยเมืองใหม่ - ไทยเสรีนิวส์
ผู้ว่าฯ อยุธยา ตรวจเยี่ยมการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก (Active case Finding) เร่งตรวจหาผู้สัมผัสในตลาดวังน้อยเมืองใหม่

อยุธยา – ผู้ว่าฯ อยุธยา ตรวจเยี่ยมการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก (Active case Finding) เร่งตรวจหาผู้สัมผัสในตลาดวังน้อยเมืองใหม่ พร้อมขอความร่วมมือชาวอยุธยาให้สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ยืนยันจับปรับแล้ว 2 ราย ไม่สวมหน้ากากเข้าตลาดสดบางปะหัน

 

วันที่ 26 เมษายน ที่ตลาดวังน้อยเมืองใหม่ อ.สังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้แทน สปสช และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทีมแพทย์จากโรงพยาบาลศุภมิตร เสนา และทีมสาธารณสุขที่ออกตรวจ ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก (Active Case Finding) ตลาดวังน้อยเมืองใหม่ หลังจากที่พบแม่ค้าในตลาดดังกล่าว เป็นผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด 19 จึงปิดตลาดพร้อมจัดจุดค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก (Active Case Finding)ในครั้งนี้ เพื่อควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาด โดยมีเป้าหมายผู้ค้าและลูกจ้าง จำนวน 600 ราย


ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 25 เมษายน ว่าที่ร้อยตำรวจตรีหญิง สายสุนี ยมานันท์ นายอำเภอบางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขณะปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พบเห็นชาย 2 คน ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ที่บริเวณตลาดสดบางปะหัน ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เข้าไปแสดงตัวจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน เปรียบเทียบปรับ ตามความผิด ข้อหา ไม่สวมหน้ากากอนามัย อันเป็นความผิดตามคำสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 1779/2563 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2563 ประกอบมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 พนักงานสอบสวน สภ.บางปะหันได้ทำการเปรียบเทียบปรับไป คนละ 500 บาท


ทั้งนี้ นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีคำสั่งที่ 1496/2563 ลงวันที่ 5 พ.ค. 2563 สั่งให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน หรือขณะอยู่นอกเคหะสถาน หรือต้องติดต่อกับบุคคลอื่นหรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2548

Cr.ภาพข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สุจินดา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา




สำนักงานใหญ่ เลขที่ 76 หมู่ 20 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000