นครพนม คุมไม่อยู่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 6 รายรวม 12 รายแล้ว
นครพนม คุมไม่อยู่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 6 รายรวม 12 รายแล้ว
วันที่ 14 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่ในวันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น 6 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่ม 95 ราย และทำให้ปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 รวมทั้งสิ้น 12 ราย
โดยผู้ป่วย 11 ราย มีประวัติเกี่ยวข้องกับพื้นที่กรุงเทพมหานคร คือเดินทางไปกรุงเทพมหานครแล้วกลับนครพนม และทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้วเดินทางกลับบ้านนครพนม ขณะที่อีกรายมาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดสมุทรปราการ โดยได้ฝากเน้นย้ำเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน ขอให้อย่าประมาท ไม่ว่าจะรักกันขนาดไหน ถ้ามาจากพื้นที่เสี่ยงเลี่ยงได้ก็ขอให้เลี่ยง อย่าเห็นว่าเขาแข็งแรงคงไม่เป็นอะไร เพราะคนป่วยทั้งหมดของนครพนมส่วนใหญ่ร้อยละ 99 ไม่มีอาการป่วยอะไรเลย ไม่มีตาแดง ไข้ ไอ หรือเป็นผื่น ทำให้บางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ
ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม มีความเห็นว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ สามารถระบาดได้ง่ายกว่าเดิมมาก เพราะจากการสังเกตพบว่ารายที่ 7,9 และ 10 ที่นั่งรถมาคันเดียวกันภายหลังตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลแล้ว พบว่าทั้ง 3 รายติดเชื้อทั้งหมด และด้วยมาตรการที่จังหวัดให้บุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยงกักตัวเองและเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่มีการตรวจพบเชื้อก่อนแพร่ระบาดในชุมชน วงคนเสี่ยงสัมผัสสูงจึงไม่กว้าง มีเฉพาะญาติพี่น้อง โดยตัวผู้ป่วยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลครบทุกรายแล้ว ส่วนผู้เสี่ยงสัมผัสสูงได้ให้กักตัวสังเกตอาการพร้อมเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ
สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง คือ บ้านตาลปากน้ำ หมู่ที่ 11 ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งที่ 923/2564 เรื่องปิดสถานที่และห้ามเข้าออกสถานที่ที่กำหนดเป็นการชั่วคราวเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียอย่างไรแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ โดยมีการปิดทางเข้าออกทั้งสิ้น 5 จุด ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงได้ให้แต่ละอำเภอเปิดสายด่วนรับแจ้งเบาะแสบุคคลที่หลีกเลี่ยงไม่กักตัวเพื่อให้ประชาชนได้แจ้งเข้ามา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย
นอกจากนี้ทางอำเภอเมืองนครพนมก็ได้มีการเชิญชวนร้านอาหาร สถานบริการในการร่วมกันป้องกันแก้ไขปัญหาโควิด – 19 ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากร้านอาหาร สถานบริการ ทั้งหมด 11 แห่ง ที่จะทำการปิดร้านเป็นเวลา 2 วัน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม
สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม