“อนุชา สันติรังสิมันต์” ตำนานลมกรดชุดโอลิมปิกที่บาร์เซโลนา ร่วมวิ่งผลัดธงชาติไทย ส่งกำลังใจให้นักกีฬาทีมชาติ สู้ศึกโอลิมปิก โตเกียวเกมส์
ตำนานลมกรดทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิก ที่มหานครบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อปี 1992 “อนุชา สันติรังสิมันต์” ขอส่งกำลังใจให้นักกีฬารุ่นน้อง ผ่านการร่วมวิ่งผลัดธงชาติไทยวันที่ 17 เส้นทางนครศรีธรรมราช มุ่งหน้า สุราษฎร์ธานี เจ้าตัวมั่นใจรุ่นน้องนักกีฬาไทยมีฝีมือและศักยภาพ สามารถคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกฝากคนไทยได้ สรุปผ่าน 17 วันกิจกรรม “วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” วิ่งสะสมระยะทางไปแล้ว 1,310.3 กม.
ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งต่อกำลังใจจากพี่น้องประชาชนคนไทยไปสู่นักกีฬาทีมชาติไทย ผ่านการวิ่งคนละ 1 กม. ต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด รวมระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว ล่าสุดเมื่อ 13 เม.ย.64 เข้าสู่วันที่ 17 ของกิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย
สำหรับกิจกรรมในวันที่ 17 ของการวิ่งผลัดธงชาติไทย ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันปีใหม่ไทย กำหนดวิ่งจากที่ว่าการอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ไปยังจุดหมายปั๊มน้ำมันพีที เวียงสระ 3 จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 76.3 กม. โดยในช่วงของการออกสตาร์ทได้รับเกียรติจาก ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอทุ่งส่ง ร่วมอัญเชิญธงชาติไทย ให้กับ วีรพัฒน์ ลายทิพย์ เจ้าหน้าที่พลศึกษาอำเภอทุ่งสง ออกวิ่งเป็นคนแรก
การวิ่งธงชาติไทยในวันที่ 17 ถือเป็นเส้นทางวิ่งวกกลับไปสู่กลุ่มจังหวัดต่างๆที่เคยวิ่งธงชาติไทยมาแล้วในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อไปสู่พื้นที่จังหวัดอื่นๆในภาคกลางและภาคตะวันตก ก่อนมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือต่อไป โดยในวันนี้มีกลุ่มพี่น้องคนไทยจากหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิ ครูสอนพิเศษ, พยาบาลวิชาชีพ, ตำรวจ, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน, แม่บ้าน, พนักงานการเงินและบัญชี, อาชีพอิสระ, นักเรียน และอดีตนักกีฬาทีมชาติ เข้าร่วม และต่างช่วยกันรวมพลังใจผ่านการวิ่งธงชาติไทยไปยังจุดหมายปั๊มน้ำมันพีที เวียงสระ 3 จ.สุราษฎร์ธานี ได้สำเร็จ ทำให้ผ่านภารกิจวันที่ 17 วิ่งสะสมระยะทางไปแล้ว 1,310.3 กม.
ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอทุ่งสง เผยว่า ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนที่ร่วมกันจัดกิจกรรมดีๆ ครั้งนี้ขึ้นมา การที่คนไทยทุกคน ทุกสาขาอาชีพร่วมกันออกมาทำกิจกรรมนี้ เป็นการบ่งบอกถึง การรวมพลังใจของคนไทย ที่จะส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาของประเทศไทยที่จะไปเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ถือเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างกำลังใจ แรงบัลดาลใจให้นักกีฬา ส่วนจะแพ้หรือชนะ ตนว่าไม่สำคัญ ขอให้ทำให้เต็มที่เพื่อประเทศไทยของเรา
ขณะที่ อัจฉรา ไชยศร พนักงานบริษัท เผยว่า ภูมิใจมากที่ได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ก่อนวิ่ง พยายามสมัครอยู่หลายครั้ง โดยตนลงสมัครที่ชลบุรี แต่ไม่ได้ เลยตัดสินลองสมัครมาที่นครศรีธรรมราชบ้านเกิด ซึ่งก็โชคดีผ่านการคัดเลือก ส่วนความรู้สึกที่ได้มาร่วมกิจกรรม ประทับใจทีมงานทุกคน ที่ดูแล อบอุ่น น่ารัก และเป็นกันเอง ดีใจมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการกิจกรรมส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ตนขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนสู้ๆ ทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ส่วน วีรยุทธ-พชรพล สังข์คง คู่พ่อลูก ซึ่งร่วมวิ่งเป็นลำดับที่ 30 และ 31 ของวัน เผยว่า ตนทั้งคู่มีความตั้งใจร่วมกันที่จะออกมาวิ่งธงชาติไทยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬา คืนก่อนจะได้วิ่ง นอนไม่หลับ เพราะตื่นเต้นที่จะได้เข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ สำหรับตนทั้งคู่ ขอเป็นอีกแรงใจและแรงเชียร์ให้นักกีฬาไทยทุกคนประสบชัยชนะในกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก
ด้าน พันจ่าอากาศเอก อนุชา สันติรังสิมันต์ อดีตนักกรีฑา ประเภท 4×400 เมตร ทีมชาติไทย ซึ่งเคยเข้าเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปี 1992 ที่มหานครบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยว่า พอทราบข่าวจากทางโรงเรียน ตนไม่รีรอ รีบสมัครเข้าร่วมทันที โดยได้ชวนภรรยาและลูกชายมาร่วมวิ่งด้วย สำหรบตน ถือเป็นนักกีฬาทีมชาติคนหนึ่ง ชีวิตความเป็นอยู่ดี มีอนาคตที่มั่นคงได้ในทุกวันนี้ ก็เพราะกีฬา ก็อยากตอบแทนสังคมด้วยกีฬา
“สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ รู้สึกภูมิใจ และถือเกียรติประวัติของครอบครัวที่ได้เข้ามาร่วม ผมขอส่งแรงใจแรงเชียร์ให้กับน้องๆนักกีฬาทีมชาติไทย ก็เชื่อว่าน้องๆทุกคนมีความสามารถ และมีศักยภาพดีพอ ที่จะนำชัยชนะและเหรียญรางวัลกลับมาฝากพี่น้องแฟนกีฬาชาวไทย”
สำหรับในวันพุธ ที่ 14 เม.ย. 64 วันที่ 18 ของกิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย จะเริ่มวิ่งกันต่อจากปั๊มน้ำมันพีทีเวียงสระ 3 จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าสู่โรงเรียนบ้านท่าแซะ จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทางรวม 71.2 กม. โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรม รวมถึงรับชมการไลฟ์สด พร้อมเเสดงความคิดเห็นเเละส่งกำลังใจให้กับอาสาสมัครนักวิ่งพี่น้องชาวไทยเเละนักกีฬาไทยได้ที่เฟซบุ๊ค “Road to Tokyo 2020” ตลอดทั้งวัน รวมถึงสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมได้ผ่านช่องทาง www.stadiumth.com เเละเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/THStadium/