จับกุมเมียนมานำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ และมียาเสพติด (ยาบ้า/ ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย - ไทยเสรีนิวส์
จับกุมเมียนมานำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ และมียาเสพติด (ยาบ้า/ ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย

จับกุมเมียนมานำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ และมียาเสพติด (ยาบ้า/ ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย

 

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด


สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.๓, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.๓, พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.๓, พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และว่าที่ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.๓ ร่วมแถลงข่าว จำนวน 3 เคส ดังนี้
เคสที่ 1 จับกุมเมียนมานำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร พร้อมคนต่างด้าว 22 คน
1.1 จับกุมนาย นาย อายุ 33 ปี (ผู้ต้องหาที่ 1) นาย เทห์ อายุ 43 ปี (ผู้ต้องหาที่ 2) สัญชาติเมียนมาและบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา รวมจำนวน 11 คน (ผู้ต้องหาที่ 3-14) พร้อมด้วยของกลาง
1. ยาบ้า จำนวน 11 เม็ด
2. ยาไอซ์ชนิดเกล็ด น้ำหนักรวมประมาณ 0.13 กรัม (รวมหลอด)
3. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ วีโว่ สีดำ 1 เครื่อง

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า นาย นาย (ผู้ต้องหาที่ 1) กระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท
๑ (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือ
กระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าว ให้เข้ามาใน
ราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งข้อกล่าวหา นายเท่ห์ (ผู้ต้องหาที่ 2) กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาใน
ราชอาณาจักร หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่าง
ด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร
ไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”

1.2 จับกุม นายเอ้ อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน
11 คน

และแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเอ้ ว่า “นำหรือนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือกระทำการ
ด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดย
ผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ส่วนบุคคลต่างด้าวจำนวน 22 คน ได้ทำบันทึกส่งมอบตัวเพื่อให้ พนักงานสอบสวนร่วมกับพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์ทำการคัดแยกเหยื่อ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินการต่อไป


พฤติการณ์ เจ้าพนักงานชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าพบบุคคลไม่ทราบสัญชาติลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรทางช่องทางธรรมชาติบริเวณภายในสวนปาล์มน้ำมัน ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้บูรณาการสนธิกำลังร่วมกับฝ่ายความมั่นคงเข้าไปตรวจสอบตามที่สายลับแจ้ง ต่อมาได้พบบุคคลลักษณะคล้ายบุคคลต่างด้าวเดินกันเป็นกลุ่มสะพายสัมภาระกำลังเดินออกจากชายป่าช่องทางธรรมชาติช่องเขาหลัก เข้ามาในสวนปาล์ม ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จว.ประจวบคีรีขันธ์ ชุดจับกุมจึงได้ทำการปิดล้อมสามารถจับกุมได้ทั้งหมด 25 คน จากการสอบสวน ทราบว่า ได้แบ่งการเดินทางเข้ามาเป็น 2 ชุด ชุดแรกมี นาย นาย และนายเท่ห์ เป็นคนนำทาง และชุดที่ 2 มีนาย เอ้เป็นคนนำทางซึ่งทั้ง 3 คน เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา มีภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านมูดอง ประเทศเมียนมา ซึ่งหมู่บ้านติดกับชายแดนด่านสิงขร ให้การว่า

ได้รับการติดต่อจากนาย ทงซอ สัญชาติเมียนมา ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย โดยนาย ทงซอให้พวกตนนำทางให้กับบุคคลต่างด้าว จำนวน 22 คน ซึ่งจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพื่อไปหางานทำ โดยพวกตนจะได้รับเงินค่าจ้างจากนายทง ซอ เป็นรายบุคคลคนละ 500 บาท โดยพวกตนได้นัดให้รวมตัวกันที่ บ.มูด่อง ประเทศเมียนมา และได้เดินเท้านำบุคคลต่างด้าวดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยใช้ช่องทางธรรมชาติช่องเขาหลัก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จว.ประจวบคีรีขันธ์ และมาถึงฝั่งประเทศไทยเวลาประมาณ 19.00 น. จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการควบคุมต้ว และประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำการเก็บสารคัดหลั่งเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และได้ทำบันทึกจับกุมตัวนำส่ง พงส.สภ.อ่าวน้อย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 




สำนักงานใหญ่ เลขที่ 76 หมู่ 20 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000