"สมศักดิ์ เทพสุทิน" มอบเงินช่วยครอบครัวตำรวจถูกแก๊งค้ายาซิ่งแหกด่านชนเสียชีวิต - ไทยเสรีนิวส์
“สมศักดิ์ เทพสุทิน” มอบเงินช่วยครอบครัวตำรวจถูกแก๊งค้ายาซิ่งแหกด่านชนเสียชีวิต

“สมศักดิ์ เทพสุทิน” มอบเงินช่วยครอบครัวตำรวจถูกแก๊งค้ายาซิ่งแหกด่านชนเสียชีวิต

 

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.64 ที่โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์อุดรธานี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย น้อมระวี รอง สว.กก.3 บก.ปส.2 ผู้กองตร.ปส. ที่ถูกแก๊งค้ายาแหกด่านหนีพุ่งชนจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 ถือเป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จากการปราบปรามยาเสพติด เป็นเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด พ.ศ.2561 จำนวน 500,000 บาท โดยมี ทายาทผู้มารับมอบเงินตอบแทนฯ 4 คน ประกอบด้วย 1.นางคำกอง น้อมระวี มารดา 2.น.ส.เกวรี น้อมระวี ลูกสาว 3.นายวีระเกียรติ น้อมระวี ลูกชาย และ4. ด.ช.อภิวัฒน์ชัย น้อมระวี ลูกชาย ในการฝึกอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์คดียาเสพติด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ให้แก่ ตำรวจ อัยการและผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12 จังหวัด

โดยมีนายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พล.ต.พิทักษ์ จันทร์เขียว ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ให้การต้อนรับ

จากนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้กล่าวมอบนโยบายในการปราบปรามยาเสพติดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบาย ยาเสพติด ที่มุ่งเน้นการบูรณาการการทำงานร่วมกันในการตัดวงจรยาเสพติด รวมถึงการปราบปรามอย่างเข้มข้น ทั้งนี้มูลค่าจากการค้ายาเสพติดมีมูลค่าถึง 70,000 ล้านเหรียญหรือคิดเป็นเงินไทยถึง 2.1 ล้านล้านบาท แต่เรายึดทรัพย์สินได้เพียง 600 ล้านบาท จึงได้กำหนดเป้าหมายการขยายผล ยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดให้ได้ 6,000 ล้านบาทในปีนี้ ภายใต้การดำเนินงานของ “ศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด” มุ่งตัดวงจรยาเสพติด โดยกำหนดเป็นมูลค่า การยึดทรัพย์สินกระจายลงสู่ระดับจังหวัด รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทั้งด้านการสืบสวนสอบสวน พร้อมให้รางวัลแก่เจ้าหน้าที่ 30 เปอร์เซ็นต์ จากการยึดทรัพย์ทันที

เพื่อตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร เพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ระหว่างวันที่ 10 – 12 ก.พ.2564 วัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการสืบสวนขยายผลคดียาเสพติด การรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดียาเสพติด การสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดให้เกิดประสิทธิภาพสอดคล้องตามแนวทางของรัฐบาล

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2564 รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม มุ่งเน้นที่จะริบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ได้จำนวนมากขึ้น จึงนำมาสู่แนวทางใหม่ ในการยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในกลุ่มผู้ถูกจับกุมและขยายผลไปยังเครือข่ายการค้า โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีการทำธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สำหรับวิธีการดำเนินการนั้น ได้สั่งการให้จัดตั้งทีมสืบสวนขยายผล โดยใช้เครื่องมือพิเศษเชื่อมโยงกับทุกคดี ให้มีการตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ที่ได้รับการฝึกอบรมแล้วมาดูแล ให้มีการประเมินมูลค่ายาเสพติดตามมูลค่าจริง และให้ติดตามยึดทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ ผู้กระทำผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับจากการค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาด

“ท่านนายกฯติดตามและกำชับผมตลอด ในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การใช้กฎหมายสมคบคิดและการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด เพื่อให้การปราบปรามได้ถึงต้นตอและตัวการ เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด และการดำเนินงานในลักษณะเน้นการสืบสวนยึดทรัพย์นั้น จะเป็นการป้องกันการสูญเสีย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องลงไปตั้งด่านสกัดจับกุมมาก เพียงเราใช้เครื่องมือสืบสวนต่อยอดจากธุรกรรมและเส้นทางการเงิน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน” นายสมศักดิ์ กล่าว




สำนักงานใหญ่ เลขที่ 76 หมู่ 20 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000