สตม. จับกุมต่อเนื่อง แก๊งขนคนสระแก้ว อ้างขนคนมาทำอ้อย - ไทยเสรีนิวส์
สตม. จับกุมต่อเนื่อง แก๊งขนคนสระแก้ว อ้างขนคนมาทำอ้อย

สตม. จับกุมต่อเนื่อง แก๊งขนคนสระแก้ว อ้างขนคนมาทำอ้อย

 

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว โดยเฉพาะการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ในห้วงการระบาดของเชื้อโควิด ๑๙ นั้น


สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.๓.,พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว บูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันจับกุมขบวนการลับลอนขนแรงงานต่างด้าวตามตะเข็บชายแดนจำนวนหลายราย


คดีแรก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปกปิดชื่อ-นามสกุลจริง) ว่าจะมีการลับลอบขนแรงงานต่างด้าวเพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทยบริเวณบ้านทับพริก ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง ต่อมาเวลา ๒๑.๓๐น. พบรถต้องสงสัยตามที่สายลับแจ้ง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ขอทำการตรวจค้นรถกระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ โดยมีนายจักรกฤษ อายุ ๓๒ ปี สัญชาติไทย เป็นชาวบ้าน ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว เป็นผู้ขับขี่ และพบชาวกัมพูชานั่งอยู่ในรถและกระบะท้ายอย่างแออัด จำนวนหลายคน จากการตรวจสอบพบว่าชาวกัมพูชาทั้งหมด ไม่มีเอกสารใดๆ แสดงตน

โดยทั้งหมดรับสารภาพว่าลักลอบเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบจุดพิกัดที่แน่ชัด ตั้งใจจะไปทำงานตัดอ้อยในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มีนายจ้างชื่อ เฮียเล็ก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เป็นคนว่าจ้าง และมี นายเอี๊ยะ นายหน้าต่างด้าวเถื่อนชาวกัมพูชา เป็นผู้ติดต่อหาคนงานในหมู่บ้านฝั่งประเทศกัมพูชา โดยเสียค่านายหน้าคนละ ๘๐๐ บาท นำมาส่งต่อให้ นายจักรกฤษ (ผู้ถูกจับกุม) เพื่อนำไปส่งให้นายจ้างชาวไทยอีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายจักรกฤษ ฯว่า “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว ที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.ก.กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘

ส่วนชาวกัมพูชาทั้ง ๑๓ คน แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) หลบหนีเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.ก.กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส จว.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่สอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง บูรณาการออกตรวจพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดน ตามนโยบายสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายของรัฐบาล เมื่อ เวลา ๐๐.๕๐น. มาเจ้าหน้าที่ออกตรวจถึงบริเวณป่าไร่อ้อย บ.ป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้พบกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีขาว จอดอยู่บริเวณชายป่าอ้อยมีลักษณะพิรุธต้องสงสัย จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ ต่อมาพบ

ชาวกัมพูชา จำนวน ๔ คน เดินเท้ามาขึ้นกระทะท้ายของรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจสอบ พบนายยอด (ผู้ถูกจับกุม) เป็นผู้ขับขี่ และพบชาวกัมพูชา จำนวน ๔ ราย นั่งอยู่ท้ายกระบะ ทั้งหมดไม่มีเอกสารใดๆ แสดงตน และรับสารภาพว่าลักลอบเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ตั้งใจจะไปทำงานคัดรองเท้ามือสองในตลาดโรงเกลือ โดยเสียค่านายหน้าคนละ ๕๐๐ บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายยอด ว่า “ ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) ที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่วนชาวกัมพูชาทั้ง ๔ ราย แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จว.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อนึ่ง ทั้งสองคดีชุดสืบสวนอยู่ระหว่างขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป


สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

 




สำนักงานใหญ่ เลขที่ 76 หมู่ 20 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000