กระบะ ชน จยย. สาหัส 1 ราย

เมื่อคืนวันที่ 20 ม.ค.64 พ.ต.ท.มนัส พิศชวนชม สว.(สอบสวน) สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสภ.พิบูลมังสาหาร ว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ อยู่บนถนนสถิตย์นิมานกาล(สายพิบูลมังสาหาร-ช่องเม็ก) ช่วงหลัก กม.ที่ 4 บริเวณสะพานห้วยต้อน รอยต่อบ้านโนนม่วง-บ้านโนนเจริญ ต.กุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยจีตัมเกาะ จุด อ.พิบูลมังสาหาร กู้ชีพตำบลกุดชมภู

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110i สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มตะแคงข้างซ้ายหันหน้าไปทาง อ.พิบูลมังสาหาร อยู่บริเวณขอบถนนทางไปอ.สิรินธร โดยสภาพรถได้รับความเสียหายทางด้านหลังเล็กน้อย และห่างกันออกไปอีกประมาณ 8 เมตร พบรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผข 1583 อุบลราชธานี จอดลักษณะเฉียงอยู่บริเวณเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ หันหน้าไปทาง อ.สิรินธร โดยมีสภาพด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย และพบร่องรอยรถครูดมุมราวสะพานห้วยต้อน ทางซ้ายมือ ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นจุดรถยนต์เฉี่ยวชนราวสะพาน ซึ่งรอยครูดดังกล่าวยาวไปถึงตรงที่รถยนต์จอดอยู่ (ยาวประมาณ 70 เมตร) คาดว่าพอรถเฉี่ยวกับราวสะพานแล้วเสียหลัก ไปเฉี่ยวชน รถจยย.ที่วิ่งสวนทางมา จนเกิดอุบัติเหตุทำให้ผู้ขับขี่รถจยย.ได้รับบาดเจ็บ และทราบชื่อผู้ขับขี่รถจยย.ในเวลาต่อมาคือนายธวัชชัย แสนทวีสุข อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 7 ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งหน่วยกู้ชีพได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิบูลมังสาหาร และในที่เกิดเหตุ ไม่พบผู้ขับขี่รถยนต์แต่อย่างใด

ต่อมา วันนี้ ( 21 ม.ค.64 ) เวลา 10.55 น. มีนายพันเทพ จันอาษา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 หมู่ที่ 8 ต.กุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เข้าพบพนักงานสอบสวนและได้แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ ทะเบียน ผข 1583 อุบลราชธานี คันที่เกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ นายพันเทพ ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงได้ไปพบแพทย์ และต่อมามีนายสมใจ แสนทวีสุข นำเอกสารหลักฐานรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุ มาแสดงต่อเจ้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบทำให้ทราบว่า รถจยย.คันที่เกิดเหตุมีป้ายทะเบียน 1 กฒ 1430 อุบลราชธานี และล่าสุด ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ อาการดีขึ้นและอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนคู่กรณีทั้ง2ฝ่าย ถึงรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป

กิตติภณ เรืองแสน / ข่าว