“สุภรณ์” อยากถาม “ธนาธร” ว่า หัวใจยังเป็นคนไทยอยู่หรือเปล่า เตรียมให้ทีมกฎหมายตรวจสอบดำเนินคดีไลฟ์สด “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย?” เข้าข่าย ม.112 และผิด พ.ร.บ.คอมฯหรือไม่
“สุภรณ์” อยากถาม “ธนาธร” ว่า หัวใจยังเป็นคนไทยอยู่หรือเปล่า เตรียมให้ทีมกฎหมายตรวจสอบดำเนินคดีไลฟ์สด “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย?” เข้าข่าย ม.112 และผิด พ.ร.บ.คอมฯหรือไม่
“สุภรณ์” เตรียมให้ทีมกฎหมายตรวจสอบดำเนินคดีกับ “ธนาธร” เข้าข่าย ม.112 และผิด พ.ร.บ.คอมฯหรือไม่ นิสัยก้าวร้าวจาบจ้วง พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง แนะไปตายไหนก็ไปหรือหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่คนไทยรักและปกป้องสถาบันจะทนไม่ไหว ยืนยัน! นายกฯห่วงใยชีวิตประชาชนคนไทยไม่คิดหวังคะแนนนิยมทางการเมืองในการเตรียมฉีดวัคซีน
19 มกราคม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดทางเพจคณะก้าวหน้าในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย? วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหวังสร้างคะแนนนิยมวัคซีนโควิด พร้อมถามหากผิดพลาดรับผิดชอบไหวไหม โดยระบุว่าการจัดหาวัคซีนนายกฯย้ำอยู่เสมอว่าจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน มีคณะกรรมการตรวจสอบ และให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนสูงสุด รวมทั้งคนไทยทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ไม่เคยคิดเรื่องการเมืองเอาคะแนนนิยมใดๆตรงกันข้ามเรื่องชีวิตความปลอดภัยของคนไทยมีค่าสูงสุด
ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์แล้วว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการอนุญาตให้นำวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ล็อตแรกมาใช้ในประเทศไทยเป็นกรณีฉุกเฉิน และนายกฯได้ให้ อย.เร่งดำเนินการพิจารณาตรวจสอบวัคซีนแล้ว ขณะเดียวกันหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนแล้วจะมีการติดตามผลที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯ และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะนำวัคซีนเข้ามาฉีดให้กับคนไทยและให้ปลอดภัยสูงสุด ดังนั้นจึงขอนายธนาธรอย่ามาพูดกล่าวหาแบบมั่วๆ และรีบสรุปในเรื่องของการนำวัคซีนเข้ามา เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ทุกอย่างต้องผ่านการรับรองว่าเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพจากต่างประเทศด้วยและทุกบริษัทก็สามารถมายื่นขอใบรับรองจาก อย.ได้ตามขั้นตอนราชการถ้ามั่นใจในคุณภาพของวัคซีน
ส่วนที่นายธนาธร กล่าวโยงใยว่าวัคซีนบางบริษัทไปเกี่ยวข้องพาดพิงกับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น นายสุภรณ์ ระบุว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ถือเป็นการไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งที่ผ่านมาสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อช่วยเหลือประชาชนและในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้พระราชทานเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาชีวิตประชาชนทั้งประเทศมากมายนานาประการซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สุด นายธนาธรไม่เคยมีจิตสำนึกแม้แต่นิดเดียว อยากถามนายธนาธรว่า หัวใจยังเป็นคนไทยอยู่หรือเปล่า
ทั้งนี้ตนเองจะให้ทีมฝ่ายกฎหมาย พิจารณาในคำพูดของนายธนาธร ว่าส่อเจตนา จาบจ้วงสถาบัน หรือผิดกฎหมายตามมาตรา 112 หรือไม่และได้มีการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จต่อนายกฯและรัฐบาล กล่าวหาแบบใส่ความไม่ตรงกับข้อเท็จจริงทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ก่อให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเนื้อหาดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิด จะเข้าแจ้งความ ที่ ปอท.เพื่อดำเนินคดีกับนายธนาธร เพื่อจะได้หยุดจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบัน และบิดเบือนใส่ร้ายคนอื่น เผื่อที่คนอย่างนายธนาธร จะได้รู้จักสำนึกและเข็ดหลาบเหมือนคนอื่นเขาบ้างสักนิดก็ยังดี
“คนแบบนายธนาธร ที่วันๆคิดแต่จะกล่าวหาคนอื่น หรือจาบจ้วงสถาบัน ตนเองมองว่าไม่สมควรอยู่ในแผ่นดินไทยอีกต่อไปจะไปตายไหนก็ไปก่อนที่คนไทยที่จงรักภักดีและปกป้องสถาบันจะทนไม่ไหว และตนมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศก็เบื่อหน่ายไม่อยากต้อนรับนายธนาธรเพราะเห็นได้จากนายธนาธรเดินทางไปจังหวัดใดก็มีแต่ประชาชนออกมาขับไล่ตลอด ทั้งนี้ในสถานการณ์ประเทศขณะที่กำลังประสบปัญหากับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ไม่มีใครคิดที่จะมาเล่นการเมืองเพื่อหวังคะแนนนิยมจากประชาชน หากจะมีคงเป็นนายธนาธรมากกว่าที่ออกมาพูดเพื่อหวังตีกินทางการเมืองโดยไม่สนใจประเทศชาติและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนในขณะนี้”
ป้ายกำกับ:#แรมโบ้, #แรมโบ้อีสาน, #ไทยเสรีนิวส์