ขนไก่โลกพร้อมลุยต่อศึก “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” ดวลสนุก 19 – 24 ม.ค.นี้
ขนไก่โลกพร้อมลุยต่อศึก “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” ดวลสนุก 19 – 24 ม.ค.นี้
ได้บทสรุปไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับรายการแรกศึก “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30,100,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในรูปแบบนิวอร์มอลภายใต้มาตรการคุ้มเข้มโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตันและผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด
นับเป็นการเปิดฉากศึกแบดมินตันประวัติศาสตร์ 3 รายการใหญ่ในเมืองไทยที่จะเกิดขึ้นตลอดเดือนมกราคมได้อย่างประทับใจ และถือเป็นต้นแบบการจัดการแข่งขันที่วงการกีฬาทั่วโลกเฝ้าติดตามกันอย่างมากมายเพื่อนำไปพัฒนาไปสู่การแข่งขันกีฬาประเภทอื่นๆ ที่ยังคงต้องหยุดการแข่งขันมาอย่างยาวนานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงระบาดอย่างหนักทั่วโลก
จากวันแรก 4 ม.ค. ที่ทั้งนักกีฬา กรรมการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้เข้าสู่บับเบิ้ล โรมแรม โนโวเทล กรุงเทพ อิมแพค, โรงแรม ไอบิส กรุงเทพ อิมแพค, อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี และสนามฝึกซ้อมที่ฮอลล์ 5 ผ่านพ้นมาแล้วเกือบสองสัปดาห์ โดยมีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันแรกเมื่อถึงที่พัก และตรวจทุก ๆ 3 วัน รวมตรวจ 8 ครั้ง ตลอดระยะเวลาการแข่งขัน ภายใต้การบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ทำให้การแข่งขันดำเนินต่อไปได้อย่างเคร่งครัด
ที่สำคัญคือการประเดิมทัวร์นาเมนต์ให้กับแฟนกีฬาชาวไทยที่ชมการถ่ายทอดสดผ่านทางทรูวิชันส์ได้อย่างน่าประทับใจกับความสำเร็จของทีมนักกีฬาแบดมินตันไทยที่ผงาดคว้าแชมป์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ครั้งแรกได้สำเร็จ ในประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก ที่ในรอบชิงชนะเลิศเฉือนชนะคู่ปรับอย่าง ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อตตาเวียนติ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปได้แบบสนุก 2-1 เกม
นอกจากนี้ในประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือวาง 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 11 ของโลก ยังสามารถทำผลงานคว้ารองแชมป์มาครองได้อีกหนึ่งประเภทโดยในรอบชิงชนะเลิศพ่ายให้กับ เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริลยานี่ ราฮายู คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไป 0-2 เกม นับเป็นการเข้าชิงระดับซูเปอร์ 1000 เป็นครั้งแรกของกิ๊ฟและวิว
ความสำเร็จครั้งนี้นับเป็นพลังแรงใจให้กับหัวเรือใหญ่กับการสร้างประวัติศาสตร์วงการแบดมินตันโลกครั้งนี้อย่าง คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ รวมถึง สำนักนายกรัฐมนตรี, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงสาธารณสุข, ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, กรมควบคุมโรค กองทัพอากาศ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, จังหวัดนนทบุรี, คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาชาติ, โรงพยาบาลรามาธิบดี, กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สถาบันบำราศนราดูร, สถาบันป้องกันควมคุมโรคเขตเมือง, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี, กรมแพทย์ทหารอากาศ, กรมทหารสารวัตรทหารอากาศ, กรมการกงศุล, ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี,ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า “สำหรับรายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น ถือว่านักกีฬาไทยทำผลงานได้ดีมาก ต่อสู้กับมือระดับโลกๆ ได้อย่างสมศักดิ์ศรี สร้างความสุข ความดีใจ ให้กับคนไทยทั้งประเทศที่ชมการถ่ายทอดสด สำหรับการแข่งขันระดับซูเปอร์ 1000 เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เข้ารอบชิงชนะเลิศทั้งสองประเภทคือคู่ผสมและหญิงคู่ ถือเป็นการเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้อย่างดีเยี่ยม อีก 2 รายการที่เหลือนักกีฬาไทยยังคงมุ่งมั่นแน่วแน่ ฝึกซ้อมเพื่อผลงานที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก คนไทยมีความสุขมากกับการชมเชียร์การแข่งขันและสุขมากขึ้นเมื่อเห็นนักกีฬาไทยได้ขึ้นโพเดียม สำหรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในบับเบิ้ลนี้ยังคงเข้มข้น เข้มงวด และบับเบิ้ลนี้จะยังอยู่ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนท์ที่สาม บับเบิ้ลนี้เป็นการกักตัวครั้งแรกของประเทศไทยและของโลกที่มีการกักตัวกันนานถึงหนึ่งเดือน ขอขอบพระคุณท่านรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทยและกองทุนพัฒนาการกีฬาชาติ ที่กรุณาให้การสนับสนุนการแข่งขัน”
สังเวียนต่อไปไม่ต้องรอกันนานกับรายการที่สองศึก “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30,100,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 19 – 24 มกราคมนี้
จากสายการแข่งขันที่ออกมาถือว่าเป็นงานที่ไม่ง่ายนักสำหรับนักกีฬาแบดมินตันไทยตั้งแต่ในรอบเมนดรอว์รอบแรก อย่างคู่ผสม คู่แชมป์ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก จะต้องพบกับมือดีจากแดนยุโรปอย่าง โรบิน ทาเบลลิ่ง กับ เซเรน่า เพี๊ยค คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากเนเธอร์แลนด์, หญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก พบกับ ซีติ ฟาเดีย รามาดานติ กับ ริบก้า ซูกรีอาโต คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากอินโดนีเซีย
ในประเภทหญิงเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบแรก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 5 ของโลก จะพบกับ ไซน่า เนวาล อดีตมือหนึ่งของโลกจากอินเดีย, “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มืออันดับ 12 ของโลก พบกับ พูซาลา วี สินธุ อดีตแชมป์โลกและมือวางอันดับ 6 ของรายการ จากอินเดีย, “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 46 ของโลก พบศึกหนัก ไถ้ ซื่อหยิง มือวาง 1 ของรายการ มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน, “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มืออันดับ 28 ของโลก พบศึกหนักเช่นกัน อัน เซยอง มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้
ด้านชายเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบแรก “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มืออันดับ 15 ของโลก จะพบกับ อึ้ง กาลอง อังกุส มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลกจากฮ่องกง, “โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ มืออันดับ 25 ของโลก จะพบกับ คีดัมบี้ สีกาน มืออันดับ 14 ของโลกจากอินเดีย, “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 29 ของโลก จะพบกับ โลว เคียงยิว มืออันดับ 38 ของโลกจากสิงคโปร์
สำหรับศึก “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 19 – 24 มกราคมนี้ ซึ่งยังไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยสามารถชมการถ่ายทอดสดได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง ทรูวิชั่นส์, ทรูโฟร์ยู, ทรู ยูทูป, ทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี โดยทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดทุกคู่การแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668, Truesports 7 ช่อง 686 และ Truesports HD2 ช่อง 667 และรับชมผ่านทางทรูโฟร์ยู เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน