เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาร่างของชายหนุ่มที่ถูกน้ำพัดสูญหายในพื้นที่อ.เทพา จ.สงขลา ขณะขับรถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวและถูกน้ำซัดแต่ยังไร้วี่แวว ในขณะที่แม่และพลเมืองดีที่ลงไปช่วยปลอดภัยแล้ว

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุสองแม่ลูกขับรถจักรยายนต์ฝ่าน้ำที่ท่วมถนนและไหลเชี่ยว บนเส้นทางสายตูหยง-ตลาดเทพา พื้นที่บ้านโคกต้นพรวน หมู่6 ต.ปากบาง อ.เทพา และถูกน้ำซัดรถจักรยานยนต์ล้มร่างทั้งสองคนไหลไปตามน้ำ และพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้กระโดดน้ำลงไปช่วยดึงแม่ขึ้นมาได้ทันรอดชีวิตหวุดหวิดส่วนลูกชายถูกน้ำซัดสูญหายไป

ล่าสุดในส่วนของอาการของผู้บาดเจ็บคือ นางมารีแย เจะสนิ อายุ 50 ปีที่ถูกน้ำซัด และนายธัญญา มาลัยกุล อายุ 51 ปี พลเมืองดีที่เสี่ยงตายลงไปช่วยอาการปลอดภัยแล้วและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเทพา ส่วน นายซุลกิฟลี ดอเลาะ อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่4 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้ จ.ปัตตานี ที่สูญหายขณะนี้ยังไม่พบร่าง

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้พื้นที่ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยกันค้นหาร่างของ นายซุลกิฟลี ที่ถูกกระแสน้ำพัดหายไป
โดยใช้เรือและเจสกีออกตระเวนค้นหาตามจุดที่คาดว่าจะถูกน้ำพัดไป แต่การค้นหาค่อนข้างลำบากเพราะน้ำไหลเชี่ยวและบริเวณที่เกิดเหตุเป็นป่าพรุพื้นที่กว่า30ไร่และน้ำลึกกว่า2 เมตร และยังมีพื้นที่ติดกับคลองปากบาง โดยคาดว่าร่างของนายซุลกิฟลี น่าจะไปติดกอสวะใต้น้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงล่องเรือตระเวนหาตลอดทั้งหวันจนกว่าจะพบ

นายเฉลิมพล ทิพย์มณี นายกเทศมนตรีตำบลเทพา ซึ่งลงพื้นที่มาร่วมค้นหาบอกว่าถนนสายนี้มีน้ำท่วมทุกปีและเกือบทุกปีก็จะมีผู้เสียชีวิตจากการถูกน้ำซัด เนื่องจากน้ำไหลแรงและเชี่ยวมาก
ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่เสี่ยงเวลาน้ำท่วมน้ำจะลึกและไหลเชี่ยว ทุกปีก็จะเกิดเหตุคนจมน้ำทั้งเด็กและผู้ใหญ่และปีนี้ก็มาเกิดซ้ำซ้ำอีก

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา