นครพนม ยังไร้โควิด สั่งเพิ่มมาตรการ รู้เร็ว คุมไว รักษาได้ทันและแก้ปัญหาง่าย รองรับพื้นที่สีเหลือง
นครพนม ยังไร้โควิด สั่งเพิ่มมาตรการ รู้เร็ว คุมไว รักษาได้ทันและแก้ปัญหาง่าย รองรับพื้นที่สีเหลือง
วันที่ 4 มกราคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีการประชุมครั้งที่ 2 / 2564 เพื่อติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการระบาดระลอกใหม่ และพิจารณาคำสั่ง มาตรการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อการบริหารจัดการพื้นที่ในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคหลัง ศบค.ประกาศ ยกระดับพื้นที่ควบคุมให้จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ซึ่งเปรียบเสมือนว่ามีการแพร่ระบาดในพื้นที่แล้ว 1-9 ราย แม้ในความเป็นจริงจังหวัดนครพนม จะยังไม่พบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่นี้
โดยเมื่อสิ้นสุดการประชุม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และนายพรต ภูภักดิ์ ปลัดจังหวัดนครพนม ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ คำสั่ง และมาตรการในการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิดที่จะออกมาในวันนี้ของจังหวัดนครพนม
ด้านการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงบูรณาการดำเนินงานกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมามีการติดตามผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งสิ้น 1,665 ราย มีการเดินทางกลับไปแล้ว 230 ราย คงเหลือในพื้นที่ 1,375 ราย มีการเก็บตัวอย่างกลุ่มเสี่ยงสูงเพื่อตรวจหาเชื้อแล้ว 591 ราย เป็นผู้ที่มาจากกรุงเทพฯ 109 ราย นนทบุรี 28 ราย ชลบุรี 106 ราย ระยอง 153 รายและสมุทรสาคร 195 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลตรวจ 119 ราย ส่วนที่เหลือไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
และในวันนี้ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการระบาดวิทยาที่ต้องให้รู้เร็ว เพื่อให้คุมสถานการณ์ได้ไว รักษาได้ทันท่วงที แก้ปัญหาได้ตรงจุดและง่าย ภายใต้แนวคิดเจ็บน้อยแต่ไม่นาน ฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุดและมีการรวบรวมข้อมูลความเดือดร้อน ผลกระทบของกิจการต่าง ๆ เพื่อนำเสนอให้รัฐบาลได้ทราบในลำดับต่อไป
สำหรับมาตรการที่เพิ่มขึ้นมาในวันนี้ คือให้มีการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรคติดต่ออันตรายเป็นการชั่วคราวเพิ่มเติมอีก 3 รายการ จากเมื่อวานที่มีการปิดไปแล้ว 13 รายการ ได้แก่ ให้ปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษาของภาครัฐและเอกชน ทั้งในและนอกระบบ ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก สถานที่บริการดูแล สถานที่พำนักอาศัย หรือสถานสงเคราะห์อื่นที่จัดสวัสดิการให้แก่เด็ก (ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานพัฒนาเด็กประถมวัย ศูนย์เด็กพิเศษ สถานที่บริการดูแล) สถานบริการตามนิยามของพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 เช่น ผับ บาร์ สถานบันเทิง และโรงเรียนสอนขับรถ โดยมีกำหนดระหว่างวันที่ 5 -18 มกราคม 2564 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นตามสถานการณ์การแพร่ระบาด
ซึ่งถ้าสถานการณ์ดีขึ้น คณะกรรมการฯ จะมีการพิจารณาเพื่อปรับให้เป็นสถานที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้โดยเร็วที่สุดทั้ง 16 รายการ ทั้งนี้ในส่วนอื่น ๆ ยังคงสามารถดำเนินการได้เหมือนเดิม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ยังได้ฝากถึงประชาชนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ที่จังหวัดนครพนมประกาศให้มารายงานตัวและกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ถ้าไม่ปฏิบัติตามมีอัตราโทษสูง คือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับนั้น ขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะปัจจุบันมีผู้ฝ่าฝืนที่ถูกดำเนินคดีแล้ว 1 ราย รวมถึงได้เน้นย้ำเกี่ยวกับการสวมแมสก์เวลาออกไปในที่สาธารณะ เพราะปัจจุบันจังหวัดมีคำสั่งให้สวมแมสก์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในช่วงนี้ผ่านขั้นตอนการประชาสัมพันธ์ไปแล้ว หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมาย ที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาดำเนินการเป็นราย ๆ ตามความเหมาะสม
สุเทพ หันจรัส นครพนม